MGR Online - สถานการณ์ในพม่าเมื่อเริ่มเข้าสู่เดือนที่ 3 สถานที่ซึ่งเกี่ยวพันกับคณะรัฐประหารได้ตกเป็นเป้าโจมตี ห้างสรรพสินค้า 2 แห่งในย่างกุ้งที่เชื่อกันว่าเป็นของทหารถูกเผาในตอนเช้ามืด ตกเย็นเกิดระเบิดดังกลางกองบัญชาการตำรวจท่าขี้เหล็ก
วานนี้ (1 เม.ย.) เวลา 18.15 น. เกิดเหตุระเบิดขึ้นบริเวณกองบัญชาการตำรวจจังหวัดท่าขี้เหล็ก ผู้ที่อาศัยอยู่ใกล้เคียงบอกว่าได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้น 3 ครั้ง บรรดาเจ้าหน้าที่ตำรวจต่างรีบวิ่งออกจากตัวอาคาร จากนั้นมีการปิดถนนนายพลอองซาน และปิดกั้นพื้นที่โดยรอบกองบัญชาการตำรวจโดยทันที
Tachileik News Agency รายงานข่าวชิ้นนี้เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. ระบุว่าไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดของการระเบิดครั้งนี้ และไม่ทราบว่ามีความเสียหายใดๆ เกิดขึ้นบ้าง
ตั้งแต่เวลา 20.45 น.ของเมื่อคืนนี้ มีรถตำรวจหลายคันตระเวนตรวจตราอย่างถี่ยิบในตัวเมืองท่าขี้เหล็ก บนถนนหลายสาย ตามแยกต่างๆ มีการตั้งด่านเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด นอกจากนี้ มีรายงานว่าตำรวจได้ตระเวนเก็บเทปบันทึกภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้ตามจุดต่างๆ เพื่อตรวจหาเบาะแสของการระเบิดที่เกิดขึ้น
ก่อนหน้าเกิดเหตุระเบิดขึ้นในเมืองท่าขี้เหล็ก ที่กรุงย่างกุ้ง ตั้งแต่ตอนเช้ามืดวานนี้ ได้เกิดเหตุรุนแรงขึ้นกับสถานที่ซึ่งมีความเกี่ยวพันกับกองทัพพม่าถึง 2 แห่งด้วยกัน โดยในเวลาประมาณ 01.30-02.00 น. เกิดเพลิงไหม้ขึ้นที่ห้างสรรพสินค้า Ruby Mart ตรงหัวมุมถนน Pansodan ตัดกับถนน Bo Gyoke จากนั้นได้เกิดเพลิงไหม้ที่ห้างสรรพสินค้า Gandamar Whole Sale ในเขตมะยานโกง ทางตอนเหนือของเมือง
มีการระดมรถดับเพลิงและเจ้าหน้าที่จำนวนมากเพื่อดับไฟที่ไหม้ห้างสรรพสินค้าทั้ง 2 แห่ง โดยเฉพาะห้าง Gandamar Whole Sale เพลิงได้ลุกไหม้ต่อเนื่องจนถึงเวลาประมาณ 07.00 น. จึงสามารถควบคุมเพลิงได้ และสภาพของห้างแห่งนี้ได้รับความเสียหายอย่างหนัก
ไม่มีการเปิดเผยถึงสาเหตุของเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นกับห้างสรรพสินค้าทั้ง 2 แห่ง เนื่องจากเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่กองทัพพม่าประกาศเคอร์ฟิว
อย่างไรก็ตาม ปฏิกิริยาของผู้คนในสังคมออนไลน์ของพม่า หลังมีการเผยแพร่ข่าวเพลิงไหม้ห้างสรรพสินค้า 2 แห่งดังกล่าว ปรากฏว่า ส่วนใหญ่ต่างแสดงความดีใจ เนื่องจากทุกคนเชื่อว่าทั้ง 2 ห้างสรรพสินค้า เป็นกิจการที่ดำเนินการโดยกองทัพพม่า
ห้างสรรพสินค้าที่ถูกไฟไหม้และกองบัญชาการตำรวจท่าขี้เหล็กที่ถูกระเบิด เป็นความรุนแรงที่เริ่มปรากฏขึ้นและได้สร้างความเสียหายให้แก่ฝั่งของคณะรัฐประหาร ถือเป็นความต่อเนื่องซึ่งลุกลามบานปลายจากการชุมนุมประท้วงที่เกิดขึ้นบนท้องถนน
การต่อต้านรัฐประหารในพม่า เริ่มขยายรูปแบบมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 14 มีนาคม ที่ได้เกิดจลาจลขึ้นในย่านหล่ายต่าหย่า และฉ่วยปยีตา กรุงย่างกุ้ง ซึ่งเป็นย่านอุตสาหกรรม ทำให้โรงงานทอผ้าที่เป็นการลงทุนของชาวจีน 2 แห่งถูกเผา และมีกิจการของชาวจีนอีกกว่า 30 แห่งได้รับความเสียหาย
จากนั้นคณะรัฐประหารประกาศใช้กฎอัยการศึกในหลายพื้นที่ของกรุงย่างกุ้ง และในเมืองมัณฑะเลย์ ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตพุ่งสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด.