รอยเตอร์ - สหภาพยุโรปจะกำหนดมาตการคว่ำบาตรกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการรัฐประหารในพม่าเมื่อวันที่ 1 ก.พ. ทั้งหมด 11 คน โจเซฟ บอร์เรลล์ หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรปกล่าว ขณะเดินทางถึงการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศสหภาพยุโรปในกรุงบรัสเซลส์
ในขณะที่สหภาพยุโรปมีมาตรการห้ามค้าอาวุธกับพม่าและได้กำหนดมาตรการคว่ำบาตรกับเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงบางนายมาตั้งแต่ปี 2561 แต่มาตรการคว่ำบาตรที่จะเกิดขึ้นในครั้งนี้จะเป็นการตอบสนองที่สำคัญที่สุดของกลุ่มนับตั้งแต่เกิดรัฐประหาร
“ในเรื่องของพม่า เรากำลังจะกำหนดมาตรการคว่ำบาตรกับ 11 บุคคลที่เกี่ยวข้องกับการรัฐประหารและการปราบปรามผู้ชุมนุมประท้วง” บอร์เรลล์ กล่าว และเสริมว่าสถานการณ์ในประเทศกำลังแย่ลงเรื่อยๆ
รอยเตอร์รายงานเมื่อวันที่ 8 มี.ค. ว่า สหภาพยุโรปกำลังเตรียมมาตรการ และคาดว่ารายชื่อของบุคคลที่ถูกคว่ำบาตรจะเปิดเผยต่อสาธารณะเมื่อรัฐมนตรีอนุมัติมาตรการคว่ำบาตรอย่างเป็นทางการแล้ว
ทั้งนี้ นักการทูตสหภาพยุโรปได้กล่าวกับรอยเตอร์ว่า กลุ่มบริษัทของทหาร เช่น บริษัท Myanmar Economic Holdings Limited (MEHL) และบริษัท Myanmar Economic Corporation (MEC) มีแนวโน้มที่จะตกเป็นเป้าหมายของการคว่ำบาตร ที่ห้ามนักลงทุนและธนาคารในสหภาพยุโรปทำธุรกิจด้วย
กลุ่มบริษัทของทหารครอบคลุมหลายภาคส่วนของเศรษฐกิจ ตั้งแต่การทำเหมืองและการผลิตอาหารและเครื่องดื่ม ไปจนถึงโรงแรม โทรคมนาคม และการธนาคาร พวกเขาติดอันดับผู้เสียภาษีรายใหญ่ที่สุดของประเทศ และแสวงหาความร่วมมือกับบริษัทต่างชาติ หลังจากพม่าเปิดประเทศ
คณะสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีพม่าของสหประชาชาติในปี 2562 ได้แนะนำให้กำหนดมาตรการคว่ำบาตรกับ 2 บริษัทและบริษัทในเครือ โดยระบุว่า บริษัทเหล่านี้เป็นแหล่งรายได้พิเศษของกองทัพที่อาจเป็นทุนให้แก่การละเมิดสิทธิมนุษยชน.
