MGR Online - 3 สัปดาห์หลังการรัฐประหาร สถิติโควิด-19 ในพม่าลดวูบ เมื่อหมอ-พยาบาลอารยะขัดขืน ยอดตรวจคัดกรองเฉลี่ยจากวันละกว่า 2 หมื่น เหลือ 1,400 คน ตลอด 22 วัน พบผู้ป่วยใหม่ 1,600 คน ล่าสุด ยอดผู้ป่วยสะสม 141,761 คน เสียชีวิตแล้ว 3,197 คน
ท่ามกลางกระแสข่าวที่เกิดอย่างหนาแน่นในพม่า ที่เป็นความเคลื่อนไหวต่อต้านการรัฐประหารในพื้นที่ต่างๆ แต่ข่าวหนึ่งซึ่งหายไปเลยจากหน้าสื่อ คือ สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ภายในประเทศ ทั้งๆ ที่โรคนี้ยังไม่ได้หายไปไหน
ตั้งแต่วันที่ 8 กุมภาพันธ์ แพทย์ พยาบาล บุคลากรสาธารณสุขส่วนใหญ่ในพม่า เข้าร่วมกระบวนการอารยะขัดขืน (Civil Disobedence Movement : CDM) แต่มีบุคลากรส่วนหนึ่งยังคงปฏิบัติหน้าที่ โดยเฉพาะภารกิจตรวจคัดกรองและรักษาผู้ป่วยโควิด-19 อย่างไรก็ตาม ผลการทำงานเชิงปริมาณได้ลดวูบลงอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเทียบกับช่วงก่อนการยึดอำนาจของกองทัพ
สถานการณ์ล่าสุดเมื่อวานนี้ (22 ก.พ.) กระทรวงสาธารณสุขและกีฬาพม่า รายงานเมื่อเวลา 20.00 น. (ตรงกับ 20.30 น. ตามเวลาไทย) พบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มขึ้น 11 คน มียอดผู้ป่วยสะสม 141,761 คน ผู้ป่วยที่รักษาหายเพิ่มขึ้น 36 คน ยอดผู้ป่วยที่หายแล้วรวม 131,318 คน มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย ยอดผู้เสียชีวิตรวม 3,197 คน เหลือผู้ป่วยที่ยังรักษาตัวอยู่ (Active Case) 7,246 คน
จำนวนกลุ่มตัวอย่างที่ได้รับการตรวจคัดกรองในพม่าเมื่อวานนี้มี 686 คน ยอดรวมกลุ่มตัวอย่างที่ได้รับการตรวจนับแต่เริ่มมีการระบาดตั้งแต่เดือนมีนาคมปีที่แล้ว 2,483,935 คน จากประชากรรวมทั้งประเทศกว่า 50 ล้านคน
ภาพรวมในช่วง 22 วัน นับแต่กองทัพพม่าทำรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ จนถึงเมื่อวานนี้ มีผู้ป่วยโควิด-19 ในพม่าเพิ่มขึ้น 1,616 คน ผู้ป่วยที่รักษาหายเพิ่มขึ้น 6,246 คน เสียชีวิตเพิ่ม 66 ราย ผู้ป่วยที่ยังรักษาตัวอยู่ลดลง 4,696 คน
ตัวเลขที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญคือยอดตรวจคัดกรองกลุ่มตัวอย่างแต่ละวัน โดยตั้งแต่วันที่ 1-22 กุมภาพันธ์ กระทรวงสาธารณสุขและกีฬาสามารถตรวจคัดกรองกลุ่มตัวอย่างได้รวม 93,588 คน เฉลี่ยวันละ 4,254 คน อย่างไรก็ตาม 77.4% ของกลุ่มตัวอย่างที่ถูกตรวจข้างต้นมาจากการตรวจในช่วง 7 วันแรก (1-7 กุมภาพันธ์) ซึ่งตรวจกลุ่มตัวอย่างได้ 77,464 คน
แต่หลังจากเริ่มมาตรการอารยะขัดขืน ซึ่งแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เป็นวิชาชีพหนึ่งที่เข้าร่วมด้วยจำนวนมาก ยอดตรวจคัดกรองได้ลดวูบลงอย่างเห็นได้ชัด โดยตั้งแต่วันที่ 8 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันแรกของการอารยะขัดขืน จนถึงเมื่อวานนี้ ยอดรวมการตรวจคัดกรองกลุ่มตัวอย่างทำได้เพียง 21,124 คน เฉลี่ยวันละ 1,408 คน
เมื่อดูอัตราส่วนการพบผู้ป่วยใหม่ต่อจำนวนกลุ่มตัวอย่างที่ตรวจคัดกรองแต่ละวัน ช่วง 22 วันหลังรัฐประหาร เฉลี่ยอยู่ที่ 1.75% ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเดือนมกราคม ซึ่งเฉลี่ยพบผู้ป่วยใหม่ 2.71% ต่อยอดตรวจกลุ่มตัวอย่างแต่ละวัน
เดือนธันวาคมปีที่แล้ว เป็นช่วงที่กระทรวงสาธารณสุขและกีฬาพม่า สามารถตรวจคัดกรองกลุ่มตัวอย่างได้มากที่สุด เฉลี่ยถึงวันละ 21,112 คน วันที่มีกลุ่มตัวอย่างได้รับการตรวจมากที่สุด ได้แก่ 18 ธันวาคม สามารถตรวจได้ถึง 24,501 คน ภายในวันเดียว รองลงมาเป็นวันที่ 12 ธันวาคม ตรวจได้ 24,099 คน และลำดับที่ 3 วันที่ 31 ธันวาคม ตรวจได้ 24,007 คน
ยอดตรวจคัดกรองกลุ่มตัวอย่างแต่ละวันที่ลดวูบลง ทำให้ตลอด 22 วันหลังรัฐประหาร พม่าพบผู้ป่วยใหม่เพียง 1,616 คน หรือเฉลี่ยพบผู้ป่วยใหม่วันละ 73 คน แต่หากดูเฉพาะช่วง 15 วัน หลังเริ่มการอารยะขัดขืน(8-22 กุมภาพันธ์) พบผู้ป่วยใหม่ 338 คน เฉลี่ยพบเพียงวันละ 22 คนเท่านั้น
ตัวเลขที่ดูมีประสิทธิภาพ คือผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาจนหาย ซึ่งสูงถึง 6,246 คน ตลอดช่วง 22 วัน เฉลี่ยแต่ละวันมีผู้หายป่วย 284 คน ขณะที่มีผู้เสียชีวิตเฉลี่ยวันละ 3 คน
เมื่อดูจากภาพรวมนับแต่เกิดการรัฐประหาร ยอดผู้ป่วยที่ยังคงรักษาตัว (Active Case) ที่ลดจาก 11,942 คน ในวันที่ 31 มกราคม เหลือเพียง 7,246 คนเมื่อวานนี้ จึงไม่นับเป็นสัญญาณที่ดีสักเท่าไร.