รอยเตอร์ -เวียดนามรายงานยืนยันพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เพิ่มอีก 9 คนในเช้าวันนี้ (29) เมื่อการระบาดครั้งแรกในรอบเกือบ 2 เดือน ได้แพร่กระจายไปยังกรุงฮานอย เมืองหลวงของประเทศ ที่พรรคคอมมิวนิสต์กำลังจัดการประชุมครั้งสำคัญ
ผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ ประกอบด้วย 1 คนในกรุงฮานอย และอีก 8 คน จากเมืองหายฟ่อง จ.หายเซวือง จ.กว๋างนีง และ จ.บั๊กนีง ทำให้ยอดผู้ป่วยติดเชื้อจากการระบาดที่เริ่มขึ้นตั้งแต่วันพฤหัสฯ (28) รวมเป็น 93 คน ตามการระบุของกระทรวงสาธารณสุข
ผู้ป่วยติดเชื้อหนึ่งใน 2 คนแรกที่ยืนยันเมื่อวันพฤหัสฯ ได้สัมผัสกับบุคคลที่ตรวจพบติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์อังกฤษกลายพันธุ์ หลังเดินทางถึงญี่ปุ่น โดยกระทรวงระบุว่า กำลังทำการวิเคราะห์พันธุกรรมเพื่อตรวจสอบว่าผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่นี้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์กลายพันธุ์หรือไม่
จำนวนผู้ป่วยติดเชื้อทั้งหมดที่บันทึกไว้นับตั้งแต่ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ตรวจพบเป็นครั้งแรกในเวียดนามปีก่อน อยู่ที่ 1,651 คน ซึ่งรวมทั้งกรณีของผู้ป่วยติดเชื้อนำเข้า และมีผู้เสียชีวิตรวม 35 คน
กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า กรณีของผู้ป่วยติดเชื้อในกรุงฮานอย เชื่อมโยงกับพนักงานสนามบินใน จ.กว๋างนีง ที่มีผลตรวจเชื้อเป็นบวกเมื่อวันพฤหัสฯ พร้อมกับคนอื่นๆ อีก 83 คน และกลายเป็นการติดเชื้อภายในประเทศครั้งแรกในรอบ 55 วัน และเป็นการระบาดในวันเดียวครั้งใหญ่ที่สุดจนถึงตอนนี้
มาตรการต่อต้านเชื้อไวรัสถูกยกระดับขึ้นยังสถานที่จัดการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคในวันนี้ (29) โดยเจ้าหน้าที่สนับสนุนและสื่อมวลชนทุกคนที่เข้าร่วมงานต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้ออีกรอบ และถือเป็นรอบที่ 3 สำหรับผู้เกี่ยวข้องกับการประชุม
ในการประชุมฉุกเฉินคืนวันพฤหัสฯ เจ้าหน้าที่ของกรุงฮานอยกล่าวว่า พวกเขาได้เพิ่มขีดความสามารถในการติดตามและตรวจหาเชื้อ และเสริมว่าเมืองสามารถดำเนินการตรวจหาเชื้อได้ถึง 10,000 ตัวอย่างต่อวัน ทั้งนี้ สถานีโทรทัศน์ของรัฐได้รายงานอ้างคำกล่าวของหัวหน้าคณะทำงานเฉพาะกิจโควิด-19 ว่าควรมีการเตรียมการสำหรับสถานการณ์ที่มีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 สูงถึง 30,000 คน
กระทรวงสาธารณสุขได้เสนอระงับเที่ยวบินระหว่างประเทศและห้ามการชุมนุมรวมกลุ่มคนจำนวนมากก่อนเทศกาลวันตรุษญวน ขณะที่รัฐบาลระบุว่า จะสร้างโรงพยาบาลสนาม 3 แห่ง ใน จ.หายเซวือง
สื่อของรัฐยังรายงานวันนี้ (29) ว่า รองผู้บัญชาการตำรวจกรุงฮานอยกล่าวยืนยันว่าเมืองมีกำลังตำรวจเพียงพอที่จะช่วยเหลือรับมือการแพร่ระบาด แม้การประชุมสมัชชาใหญ่พรรคจะดำเนินอยู่ก็ตาม.
