MGR Online - นครหลวงเวียงจันทน์ประกาศขายสิทธิครอบครองที่ดินตลอดแนว 2 ฟากถนน 450 ปี เนื้อที่รวมกว่า 177 ไร่ แก่ภาคเอกชนที่สนใจ เพื่อหาเงินมาใช้หนี้ค่าก่อสร้างแก่แบงก์ชาติลาว
สำนักข่าวสารประเทศลาวมีรายงานเมื่อตอนบ่ายวันนี้ว่า แผนกทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นครหลวงเวียงจันทน์ ได้ประกาศขายสิทธิครอบครองที่ดินในเขตสงวน ตลอดแนว 2 ฝั่งถนนสาย 450 ปี ลึกฝั่งละ 50 เมตร ให้แก่บุคคลหรือนิติบุคคลที่สนใจ สามารถติดต่อขอรายละเอียดได้ที่สำนักงานภาคสนาม ถนน 450 ปี บ้านโพนทอง เมืองไซเสดถา
ที่ดินดังกล่าวมีทั้งสิ้น 93 แปลง เนื้อที่รวม 283,500 ตารางเมตร หรือประมาณ 177.19 ไร่ (ดูแผนที่ประกอบ)
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม องค์กรปกครองนครหลวงเวียงจันทน์และธนาคารแห่ง สปป.ลาว ได้เซ็นสัญญามอบสิทธิครอบครองที่ดินเหล่านี้ให้แก่กลุ่มบริษัทดวงจะเลิน พัดทะนาก่อส้าง จำกัด สัญญาฉบับดังกล่าว ทำขึ้นเพื่อเป็นหนทางหาเงินชำระหนี้ให้แก่ธนาคารแห่ง สปป.ลาว ที่องค์การปกครองนครหลวงเวียงจันทน์ได้กู้มาเพื่อใช้เป็นค่าก่อสร้างถนนสายนี้ตั้งแต่ พ.ศ.2551
เนื้อหาในสัญญา กลุ่มบริษัทดวงจะเลินฯ ต้องนำที่ดินเหล่านี้ไปพัฒนา สร้างระบบสาธารณูปโภค ถนน ซอยแยกไปสู่ที่ดิน เพื่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มและขายที่ดินเหล่านี้เพื่อนำเงินมาชำระหนี้ ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยแก่ธนาคารแห่ง สปป.ลาว
อย่างไรก็ตาม กลุ่มบริษัทดวงจะเลินฯ ต้องลงทุนเป็นเงินมากกว่า 30 ล้านดอลลาร์ มีเวลา 5 ปี เพื่อขายที่ดินให้หมด
ประกาศฉบับใหม่ ซึ่งเป็นการเชิญชวนทุกคนที่สนใจสามารถซื้อสิทธิครอบครองที่ดินได้ จึงเป็นการเปลี่ยนแปลงแนวทางหาเงินเพื่อนำมาชำระหนี้ขององค์การปกครองนครหลวงเวียงจันทน์
เมื่อปี 2551 องค์การปกครองนครหลวงเวียงจันทน์ มีโครงการสร้างถนนเลี่ยงเมืองระยะทาง 20.3 กิโลเมตร จากถนน 13 ใต้ บริเวณสี่แยกดงโดกไปยังคลังสินค้าท่านาแล้ง ถนนท่าเดื่อ เพื่อเป็นการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน
ถนนสายนี้ถูกใช้เป็นวงแหวน จากสถานีรถไฟท่านาแล้ง เพื่อไปเชื่อมต่อกับถนนสาย 13 เหนือและใต้ โดยไม่ต้องผ่านเข้าตัวนครหลวงเวียงจันทน์ และเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองในโอกาสครบรอบ 450 ปีของการตั้งนครหลวงเวียงจันทน์ จึงตั้งชื่อถนนสายนี้ว่าถนน 450 ปี
นครหลวงเวียงจันทน์ได้ว่าจ้างกลุ่มบริษัทดวงจะเลินฯ เป็นผู้รับเหมา และได้กู้เงินจากธนาคารแห่ง สปป.ลาว นำมาใช้เป็นทุนในการก่อสร้าง
ตามแผนเดิม นครหลวงเวียงจันทน์จะนำที่ดินตลอดแนว 2 ฝั่งถนน ลึกฝั่งละ 50 เมตร ออกขาย เพื่อนำเงินไปชำระหนี้คืนแก่ธนาคารแห่ง สปป.ลาว
อย่างไรก็ตาม แม้ถนนได้สร้างเสร็จและเปิดใช้งานแล้ว แต่ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ที่ดิน 2 ฝั่งถนนสายนี้สามารถขายออกไปได้เพียง 20% โดยขายได้เฉพาะที่ดินแปลงที่สวย กับแปลงที่อยู่ติดกับตัวเมือง
ที่ดินส่วนที่เหลือซึ่งขายไม่ออก เป็นแปลงที่ไกลจากตัวเมือง รูปที่ดินไม่สวย เป็นท้องทุ่ง หรือหนองน้ำ ไฟฟ้าและประปายังเข้าไปไม่ถึง ที่สำคัญคือ ราคาที่กำหนดไว้เพื่อขายสูงกว่าราคาตลาด
ธนาคารแห่ง สปป.ลาวได้ประชุมร่วมกับนครหลวงเวียงจันทน์หลายครั้ง เพื่อหาวิธีการแก้ไขหนี้สินก้อนนี้ ในที่สุดก็ได้เห็นพ้องกันว่า จะโอนสิทธิการใช้ที่ดินส่วนที่ยังขายไม่ได้ให้กลุ่มบริษัทดวงจะเลินฯ นำไปพัฒนา เพื่อนำเงินมาการชำระหนี้ ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยแก่แบงก์ชาติลาว
กลุ่มบริษัทดวงจะเลินฯ เป็นกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่กลุ่มหนึ่งของลาวที่เติบโตขึ้นจากการได้รับสัมปทานจากรัฐ
เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคมปีที่แล้ว บริษัทดวงจะเลิน พัดทะนา กะสิกำ ในเครือกลุ่มดวงจะเลินฯ ได้รับสัมปทานทำสวนกล้วยจากแขวงบ่อลิคำไซ บนเนื้อที่ 150 เฮกตาร์ (937 ไร่) ในเมืองบ่อลิคัน
ก่อนหน้านั้น วันที่ 4 มิถุนายน 2561 กระทรวงโยธาธิการและขนส่ง สปป.ลาว ได้เซ็น MOU ให้บริษัทดวงจะเลิน พัดทะนาก่อสร้าง เป็นผู้ศึกษาความเป็นไปได้ โครงการสร้างทางด่วนสายใต้ (เวียงจัน-จำปาสัก) ช่วงจากเมืองท่าแขก (แขวงคำม่วน) ไปยังแขวงสะหวันนะเขต ระยะทาง 117 กิโลเมตร.