MGR Online - “บ่อแก้ว-หลวงน้ำทา” เผยผลตรวจผู้ใกล้ชิด 2 คนจีนที่ลักลอบข้ามโขงจากท่าขี้เหล็กหนีกลับบ้าน ยังไม่พบผู้ติดโควิด-19 เตรียมพิจารณาเปิดเขตเศรษฐกิจฯ สามเหลี่ยมทองคำ-บ่อเต็น อีกครั้ง
กรณีชาวจีน 2 คน ซึ่งทำงานคาราโอเกะในท่าขี้เหล็กช่วงที่โควิด-19 ระบาด ลักลอบข้ามแม่น้ำโขง แอบหนีกลับบ้านผ่าน 2 แขวงของลาว ระหว่างวันที่ 24 พฤศจิกายน-2 ธันวาคม และพบว่าทั้งคู่ติดเชื้อโควิด-19 หลังถูกตำรวจจีนจับได้นั้น
เมื่อวันที่ 14 ธันวาคมที่ผ่านมา ดร.คำผะหยา พมปันยา รองเจ้าแขวงบ่อแก้ว เปิดเผยว่า คณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อป้องกัน ควบคุม และแก้ไขการระบาดของโควิด-19 แขวงบ่อแก้ว ได้ลงพื้นที่เก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อของบุคคลที่ต้องสงสัยว่าอาจใกล้ชิดกับชาวจีนทั้งคู่ รวม 8 คน และครอบครัวของคนเหล่านี้อีก 14 คน และรวมถึงผู้ที่เคยเข้าไปเที่ยวในกาสิโนอีก 1 คน ตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคม
ระหว่างวันที่ 7-11 ธันวาคม ได้ลงพื้นที่เก็บตัวอย่างเพิ่มเติมจากประชาชน 181 คน ใน 11 บ้านของเมืองต้นผึ้ง และได้เข้าไปเก็บตัวอย่างจากพนักงานอีก 37 คน ที่ทำงานอยู่ในกาสิโนในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ รวมถึงผู้ที่มีอาการคล้ายกับเป็นหวัดอีก 18 คน และบุคลากรทางการแพทย์อีก 6 คน ซึ่งผลการตรวจออกมาแล้วว่าไม่มีผู้ใดติดเชื้อโควิด-19
อย่างไรก็ตาม เพื่อไม่ประมาท คณะกรรมการเฉพาะกิจฯ แขวงบ่อแก้ว ได้มีคำสั่งล่าสุด เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ให้ระงับการจัดงานประเพณีทุกชนิดที่จะมีคนมาร่วมงานเป็นหมู่มากเอาไว้ก่อน อนุญาตให้มีเพียงพิธีกรรมทางศาสนา หรือตามวัฒนธรรมของแต่ละชนเผ่า และต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการระบาดอย่างเข้มงวด
ที่แขวงหลวงน้ำทา เมื่อวานนี้ (15 ธ.ค.) ได้มีการประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจฯ แขวงหลวงน้ำทา ดร.แก้ว อินทะวง หัวหน้าแผนกสาธารณสุข ได้รายงานต่อที่ประชุมว่า นับจากเกิดการลักลอบเดินทางข้าม 3 ประเทศของชาวจีนทั้ง 2 คน แขวงหลวงน้ำทาได้มีการเก็บตัวอย่างบุคคล 22 คน ในนี้เป็นคนที่ใกล้ชิดกับคนจีนที่เป็นต้นเหตุ จำนวน 7 คน เป็นชาวจีน 2 คน คนลาว 5 คน รวมกับครอบครัวของคนเหล่านี้อีก 15 คน ไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 ผลตรวจรอบแรกออกมาเป็นลบทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม ยังมีการตรวจรอบ 2 ซึ่งขณะนี้ยังรอผลอยู่ รวมถึงยังมีบุคคลที่มีส่วนใกล้ชิดกับชาวจีนต้นเหตุอีก 3 คน ที่ยังติดตามตัวไม่ได้
คณะกรรมการเฉพาะกิจฯ แขวงหลวงน้ำทา ได้กำชับให้แผนกสาธารณสุขแขวง เข้มงวดกับมาตรการป้องกันและเฝ้าระวัง และเก็บตัวอย่างจากบุคคลอื่นนำไปตรวจหาเชื้อเพิ่ม เพื่อนำผลไปประเมินว่าจะเปิดเขตเศรษฐกิจเฉพาะบ่อเต็นแดนงาม เมืองบ่อเต็น อีกครั้งหลังครบกำหนดล็อกดาวน์แล้วหรือไม่
จังหวัดท่าขี้เหล็ก รัฐชานตะวันออก ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับเมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้วของลาว ได้เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอก 2 เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน
วันที่ 24 พฤศจิกายน นายจาง จื้อซิน (Zhang Zhixin) และจาง ซงเว่ย (Zhang Songwei) ชาวเมืองจางโจ มณฑลฝูเจี้ยน (ฮกเกี้ยน) ซึ่งทำงานอยู่ที่ร้านคาราโอเกะชื่อ “ต้าซีหลีหูหลูต้า” ในตัวเมืองท่าขี้เหล็ก ได้ลักลอบนั่งเรือข้ามแม่น้ำโขงมายังท่าเรือบ้านมอม เขตเมืองต้นผึ้ง เพื่อหนีการแพร่ระบาด
จากนั้นใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ เดินทางโดยรถยนต์จากเมืองต้นผึ้งไปยังเขตเศรษฐกิจเฉพาะบ่อเต็นแดนงาม เมืองบ่อเต็น แขวงหลวงน้ำทา และลักลอบเดินข้ามภูเขากลับเข้าไปในจีน กลางดึกคืนวันที่ 1 ธันวาคม ก่อนจะถูกตำรวจจีนจับในตอนรุ่งเช้า และถูกตรวจพบว่าทั้งคู่ติดโควิด-19 ในวันที่ 3 ธันวาคม
ทันทีที่เรื่องราวของชาวจีนทั้ง 2 คนถูกเปิดเผยออกมา เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขงตรงข้ามกับท่าขี้เหล็ก ได้ประกาศปิดพื้นที่ห้ามบุคคลเข้า-ออกตั้งแต่วันที่ 3-20 ธันวาคม
เมืองต้นผึ้ง ได้สั่งหยุดการเดินเรือทุกชนิดในแม่น้ำโขง และหยุดการนำเข้า-ส่งออกสินค้า ผ่านด่านสากลบ้านมอม และด่านสากลสามเหลี่ยมทองคำ ตั้งแต่วันที่ 3 ธันวาคม จากนั้นได้สั่งปิดเมืองต้นผึ้ง ห้ามบุคคลเข้า-ออกเมืองเป็นเวลา 14 วัน นับแต่วันที่ 4 ธันวาคม
วันที่ 5 ธันวาคม คณะเฉพาะกิจฯ แขวงหลวงน้ำทา ได้สั่งปิดเขตเศรษฐกิจเฉพาะบ่อเต็นแดนงาม ห้ามบุคคลเข้า-ออกเป็นเวลา 14 วัน และให้แขวงหลวงน้ำทา และบ่อแก้ว ตรวจตราผู้คนที่จะเดินทางเข้า-ออกในพื้นที่อย่างเข้มงวด
ขณะนี้การล็อกดาวน์ในหลายพื้นที่ทั้งในเมืองต้นผึ้งและแขวงหลวงน้ำทา ใกล้ครบกำหนด 14 วัน
เมื่อวานนี้ เพจเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำได้เผยแพร่ภาพชุดสนามแข่งรถโกคาร์ท พร้อมคำบรรยายว่าเป็นจุดขายใหม่ที่พร้อมเปิดให้บริการ โดยหากเป็นคนลาว เพียงแสดงบัตรประชาชนหรือทะเบียนบ้าน จะได้รับส่วนลดเป็นพิเศษ
การเผยแพร่ภาพชุดนี้ คาดว่าเป็นกลยุทธ์ในการสร้างความมั่นใจ เพื่อดึงนักท่องเที่ยวให้เข้าไปเที่ยวในเขตเศรษฐกิจพิเศษฯ อีกครั้ง หลังต้องถูกล็อกดาวน์ไปกว่า 2 สัปดาห์.