การระบาดของเชื้อโรคโคโรนาไวรัสฝั่งท่าขี้เหล็กทำท่าว่าจะเอาไม่อยู่ ทางการพม่าได้สั่งล็อกดาวน์ถึง 5 เมือง เพื่อสกัดกั้นไม่ให้สถานการณ์เลวร้ายกว่าที่เป็นอยู่ แต่ไม่ง่ายเพราะฝั่งพม่าขาดแคลนทรัพยากรทุกด้านในการรับกับปัญหา อยู่ห่างจากเมืองหลวง
เมื่อทางการไทย-พม่าสั่งปิดพรมแดน การข้ามแดนในสภาวะปกติต้องสิ้นสุดลง ต้องอาศัยท่าข้ามและด่านเถื่อนกว่า 10 แห่งตามแนวชายแดนเป็นจุดข้ามฟาก และต้องจ่ายในราคาแพงกว่าปกติหลายเท่า และช่วงนี้แทบเป็นไปไม่ได้
หลังจากกลับมากลุ่มหนึ่ง ยังมีคนไทยจำนวนมากตกค้างอยู่ฝั่งท่าขี้เหล็ก ซึ่งยังกลับมาไม่หมด มีความเสี่ยงจะเป็นพาหะเนื่องจากการระบาดอย่างหนักในฝั่งพม่า ซึ่งล็อกดาวน์เมืองท่าขี้เหล็ก เมืองสาด เมืองเชียงตุง เมืองโก และเมืองยอง
การระบาดใน 5 เมือง ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากคนในพื้นที่เดินทางไปสักการะท่านครูบาบุญชุ่ม ซึ่งในพื้นที่นั้นมีคนติดเชื้ออยู่แล้วรวมทั้งคนไทยประมาณ 70-80 รายซึ่งเป็นลูกศิษย์ของท่านครูบา เผชิญกับความเสี่ยงอย่างมาก กลับไทยก็ลำบาก
โรงพยาบาลและสถานที่รักษาฝั่งพม่าขาดแคลนเกือบทุกอย่าง ลูกศิษย์ท่านครูบาส่วนหนึ่งก็เป็นพาหะเมื่อเดินทางกลับบ้าน ไปแพร่เชื้อในพื้นที่ต่างๆ รวมทั้งชนกลุ่มน้อย ซึ่งเป็นชาวเขา อาศัยในป่า พื้นที่สูง เป็นป่าเขา
นั่นทำให้การติดตามตัวโดยเจ้าหน้าที่เพื่อสังเกตอาการติดเชื้อ และอาการป่วยแทบเป็นไปไม่ได้ คนเหล่านี้จึงกลายเป็นพาหะในชุมชนของตนเอง
นี่จึงเป็นวิกฤตรอบใหม่ในฝั่งท่าขี้เหล็ก คนที่ไปสักการะท่านครูบาไม่มีใครทราบว่าอาศัยอยู่แหล่งใดชัดเจน ฝั่งไทยจึงเผชิญกับกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่ รวมทั้งตรงข้ามกับบ้านสบรวก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสามเหลี่ยมทองคำ
อีกฟากหนึ่งของสะพานข้ามแดนแม่สายก็มีชุมชนบนดอยหัวแม่คำของอำเภอแม่ฟ้าหลวง และมีชาวบ้านส่วนหนึ่งเสี่ยงที่จะรับการระบาดได้เช่นกัน
ทางการไทยนอกจากจำเป็นต้องเข้มงวดพื้นที่ชายแดนแล้ว อำเภอแม่สาย ซึ่งเป็นแหล่งทำเงินให้เจ้าหน้าที่บางกลุ่ม ก็ยังถือว่าเป็นพื้นที่เสี่ยง เพราะจะเป็นทางผ่านข้ามแดนที่กั้นโดยแม่น้ำสายและแม่น้ำรวกใกล้สามเหลี่ยมทองคำ
ถ้าจะจัดการปัญหาการลักลอบข้ามแดนอย่างเด็ดขาด เจ้าหน้าที่ทางการในพื้นที่ต้องสั่งให้ปิดท่าและด่านเถื่อน เพราะเป็นท่าอิทธิพล มีผลประโยชน์มหาศาล
อย่างน้อยเจ้าของท่า 3 แห่งที่ใช้เป็นด่านเถื่อน ก็เป็นคนมาจากฝั่งพม่าและมาอยู่ในประเทศไทยนานแล้ว ได้บัตรประชาชน สิทธิอยู่อาศัยด้วยวิธีพิสดารเหมือนรายอื่นๆ ที่ใช้เงินเป็นใบเบิกทาง ต้องจ่าย มีเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ร่วมมืออย่างดี
แม่สายจึงเป็นเมืองชายแดนที่มีผลประโยชน์มหาศาล เพราะทั้งการค้าของเถื่อน การพนันออนไลน์ฝั่งพม่า การลักลอบขนคนข้ามชายแดน ธุรกิจรับทำบัตรประชาชนให้ชนกลุ่มน้อยต่างๆ จากฝั่งพม่าซึ่งได้เข้ามาอาศัยในฝั่งแม่สาย
แหล่งชุมชนขนาดใหญ่ซึ่งมีชาวบ้าน ซึ่งเป็นชนเผ่าต่างๆ จากฝั่งพม่าเข้ามาซื้อบ้านฝั่งไทย คือหมู่บ้านปิยะพร ตั้งแต่โครงการ 1 ถึงโครงการ 13 ซึ่งมีอยู่หลายร้อย หลังคาเรือน ราคาให้เลือกตั้งแต่ 1 ล้านกว่าบาทจนถึงกว่า 10 ล้านบาท
โครงการใหม่ เน้นเฉพาะคนมีเงินมากจากฝั่งท่าขี้เหล็ก ได้อยู่พร้อมบัตรประชาชน
คนในพื้นที่ไม่มีกำลังเงินซื้อบ้านในราคานี้ ต้องเป็นกลุ่มจากต่างแดนซึ่งซื้อขายสินค้าต้องห้าม ขนเงินเข้ามาทุ่มซื้อบ้าน บัตรประชาชนแปลงสภาพเป็นคนไทย
มีเสียงร่ำลือในพื้นที่แม่สายว่าโครงการขายบ้านจัดสรรขนาดใหญ่ประกาศ ถ้าใครซื้อบ้าน แถมจัดทำบัตรประชาชนให้ด้วย จึงมีชนเผ่าจากฝั่งพม่ามาซื้อบ้าน ทำให้บางหมู่บ้านมี “คนไทยเทียม” มากถึง 70 เปอร์เซ็นต์ของประชากร
กลุ่มที่ข้ามมา มีทั้งชาวไทยใหญ่ ว้า และเผ่าอื่นๆ มีเงินมหาศาลจากธุรกิจผิดกฎหมาย ได้สร้างความมั่งคั่งให้กับเจ้าของโครงการหมู่บ้านจัดสรร ซึ่งมีเครือข่ายสัมพันธ์กว้างขวางกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น มีผลประโยชน์แบ่งปันอย่างมากมาย
หมู่บ้านจัดสรรซึ่งมีชาวไทยเทียมอาศัยอยู่ จึงเป็นแหล่งที่ซื้อขายสินค้านอกกฎหมาย รวมทั้งยาเสพติด เป็นพื้นที่ถูกเอกซเรย์เพื่อหาคนและของผิดกฎหมาย
ถ้าเจ้าหน้าที่บ้านเมืองต้องการเอกซเรย์ก็ต้องเริ่มต้นที่หมู่บ้านจัดสรร
ต้องเข้มตรวจดูคนในชุมชน ความเป็นมาของบัตรประชาชนอย่างจริงจัง
ในหมู่บ้านจัดสรรปิยะพรมีโรงเรียนขนาดใหญ่ ชั้นเรียนตั้งแต่อนุบาลจนถึงระดับมัธยม 6 ส่วนใหญ่เป็นลูกหลานของพวกไทยเทียมที่มาจากฝั่งพม่า โรงเรียนนี้ตั้งอยู่กลางหมู่บ้านจัดสรรปิยะพร เจ้าของมีกิจการโรงแรม ปั๊มน้ำมัน และอื่นๆ
กลุ่มนี้กุมอำนาจการเมืองในพื้นที่แม่สายอย่างเด็ดขาด เชื่อมโยงเป็นเนื้อเดียวกันกับธุรกิจขนาดใหญ่ในพื้นที่ ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถจัดการได้ แม้แต่ผู้ว่าฯ เชียงรายก็ยังให้ความเกรงใจอย่างมาก ถึงแม้ตนเองจะเกิดที่แม่สายก็ตาม
ดังนั้น แม่สายจึงเป็นเมืองแห่งขุมทรัพย์มหาศาล มีผลประโยชน์การค้าทั้งถูกและผิดกฎหมาย และเป็นภัยต่อความมั่นคง เมื่อมีผู้ถือบัตรประชาชนจากการซื้อบ้านและการลงทุนอื่นๆ
ใครจะกล้าแตะ รัฐมนตรีมหาดไทย ซึ่งเป็นทหาร จะกล้าทำอะไรหรือ เมื่อท่านผู้ว่าฯ เชียงราย และนายกเทศมนตรี ก็เคยเป็นทหารมาก่อน แม้จะมียศไม่สูง
ถ้ากลุ่มอิทธิแม่สายยังอยู่สบาย สืบทอดอำนาจ ประเทศไทยก็ยังต้องเสี่ยง!