MGR Online - กระทรวงพลังงานลาวเตือนทุกเขื่อนใน 4 แขวงภาคใต้ เตรียมรับมือกับเหตุฉุกเฉินที่จากพายุโคนีที่จะขึ้นฝั่งเวียดนามวันพรุ่งนี้ ย้ำถ้าจำเป็นให้เร่งระบายน้ำออกจากอ่าง
วานนี้ (3 พ.ย.) กรมคุ้มครองพลังงาน กระทรวงพลังงานและบ่อแร่ สปป.ลาว มีหนังสือเลขที่ 1456/พบ.กคพ ถึงหัวหน้าแผนกพลังงานและบ่อแร่ แขวงสาละวัน เซกอง จำปาสัก และอัตตะปือ ในหนังสือได้อ้างการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมและอุทกศาสตร์ เกี่ยวกับพายุ “โคนี” ที่จะเข้ามาในพื้นที่ของลาวในวันพรุ่งนี้ และจะส่งผลให้เกิดฝนตกหนักใน 4 แขวงภาคใต้ ระหว่างวันที่ 5-6 พฤศจิกายน โดยระบุว่า เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับผลที่จะเกิดขึ้นจากความรุนแรงของพายุลูกนี้ ให้ทุกเขื่อนที่อยู่ใน 4 แขวงภาคใต้ของลาว
1.ติดตามสภาพอากาศ ข่าวสารและการพยากรณ์อากาศทั้งของลาวและประเทศเพื่อนบ้านอย่างใกล้ชิด
2.ตรวจเช็กอุปกรณ์ เครื่องไม้เครื่องมือที่บ่งบอกสถานะของอ่างเก็บน้ำ ตัวเขื่อน และประตูระบายน้ำ ให้มีความพร้อมสำหรับการใช้งาน
3.ตรวจสภาพความพร้อมของอ่างเก็บน้ำให้สามารถรองรับน้ำที่จะเข้ามา และถ้าเห็นว่ามีความจำเป็นต้องปล่อยน้ำออกจากอ่างเสียแต่เนิ่นๆ โดยให้ยึดตามข้อกำหนดในการควบคุมน้ำท่วมของแต่ละเขื่อนอย่างเคร่งครัด
4.ตรวจความพร้อมของหน่วยเฝ้าระวังและประสานงาน ตรวจสภาพทางเข้าออกเขื่อน อุปกรณ์ เครื่องไม้เครื่องมือที่จำเป็นต่างๆ
5.ปฏิบัติตามระเบียบว่าด้วยความปลอดภัย โดยเฉพาะข้อกำหนดที่ระบุไว้ในหนังสือแจ้งการจากสำนักนายกรัฐมนตรี ฉบับที่ 68/นย ว่าด้วยความรับผิดชอบในกรณีฉุกเฉินของเขื่อนผลิตไฟฟ้า
6.ประสานกับฝ่ายปกครองท้องถิ่น และประชาชนที่อยู่ท้ายเขื่อนให้มีสติ และเตรียมรับมือกับกรณีฉุกเฉิน
7.ให้รายงานสถานการณ์มายังกรมคุ้มครองพลังงาน กระทรวงพลังงานและบ่อแร่ด้วย
พายุโคนี ถือเป็นพายุที่รุนแรงที่สุดของปีนี้ ได้ขึ้นฝั่งฟิลิปปินส์เมื่อเช้าวันอาทิตย์ที่ 1 พฤศจิกายน และสร้างความเสียหายอย่างหนัก มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 16 คน เกิดดินโคลนถล่ม แรงลมได้พัดบ้านเรือนประชาชนเสียหายเป็นบริเวณกว้าง
กรมอุตุนิยมวิทยาหลายประเทศคาดว่า พายุลูกนี้จะขึ้นฝั่งเวียดนามตอนกลางในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลกระทบต่อเวียดนาม ลาว กัมพูชา รวมถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างของไทย ไปจนถึงวันที่ 7 พฤศจิกายน
ตามวิสัยทัศน์ “แบตเตอรี่ของอาเซียน” ลาวมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำเป็นจำนวนมาก เขื่อนไฟฟ้าในลาวที่สร้างเสร็จและจ่ายกระแสไฟฟ้าแล้ว ปัจจุบันมีมากกว่า 70 แห่ง สำหรับเขื่อนไฟฟ้าสำคัญใน 4 แขวงภาคใต้ของลาว เช่น แขวงสาละวัน-เขื่อนเซเซด และ 2 กำลังการผลิต 45 และ 76 เมกะวัตต์ แขวงจำปาสัก-เขื่อนดอนสะโฮง กำลังการผลิต 260 เมกะวัตต์ เขื่อนเซละบำ กำลังการผลิต 5 เมกะวัตต์ แขวงเซกอง-เขื่อนห้วยลำพันใหญ่ กำลังการผลิต 88 เมกะวัตต์ แขวงอัตตะปือ-เขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อย กำลังการผลิต 410 เมกะวัตต์ เขื่อนห้วยเหาะ กำลังการผลิต 150 เมกะวัตต์
ก่อนหน้านี้ เคยกรณีเขื่อนแตกในลาวจนสร้างความเสียหายแก่ชุมชนท้ายเขื่อนมาแล้ว 4 ครั้ง ที่รุนแรงที่สุด คือ กรณีสันเขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อย เมืองสะหนามไซ แขวงอัตตะปือ แตกเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2561 ทำให้มีผู้เสียชีวิตและสูญหายนับร้อยราย
ก่อนกรณีเขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อย เขื่อนไฟฟ้าในลาวเคยแตกมาแล้ว 2 แห่ง ได้แก่ เขื่อนเซกะหมาน 3 ที่เมืองดากจึง แขวงเซกอง เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2559 และเขื่อนน้ำอ้าว เมืองผาไซ แขวงเชียงขวาง เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2560
ล่าสุด เมื่อวันที่ 4 สิงหาคมปีที่แล้ว เขื่อนน้ำงึมแก้งควน ที่เมืองแปก แขวงเชียงขวาง แตก แต่โชคดีที่ไม่มีผู้เสียชีวิต.
