เอเอฟพี - พม่าออกคำสั่งขยายพื้นที่ล็อกดาวน์ในรัฐยะไข่ จากเดิมที่ประกาศใช้กับเมืองสิตตะเวเท่านั้น เป็นครอบคลุมทั่วทั้งรัฐตั้งแต่ค่ำวานนี้ (26) เพื่อหยุดการเคลื่อนไหวของประชาชนมากกว่า 3 ล้านคน หลังจากทางการพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ
ในระยะเวลา 36 ชั่วโมง พม่าพบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่มากกว่า 100 คน นับว่าสูงที่สุดจนถึงขณะนี้ ทำให้จำนวนผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสะสมในประเทศอยู่ที่ 580 คน โดยที่ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่อยู่ในรัฐทางตะวันตกเฉียงเหนือ
รัฐยะไข่เป็นหนึ่งในรัฐที่ยากจนที่สุดของประเทศ ที่มีสถานพยาบาลต่ำกว่ามาตรฐาน และขาดการเข้าถึงการศึกษาในพื้นที่ห่างไกลบางแห่ง
รัฐแห่งนี้ยังเป็นที่อยู่อาศัยของชาวมุสลิมโรฮิงญาราว 130,000 คน ที่พลัดถิ่นจากความขัดแย้งและถูกจำกัดขอบเขตให้อยู่แต่ในค่ายพักที่องค์การนิรโทษกรรมสากลอธิบายเป็นการแบ่งแยก
นอกจากนี้ ยังมีชาวยะไข่พลัดถิ่นอีกราว 150,000 คน กระจัดกระจายอยู่ทั่วรัฐหลังต้องหลบหนีการต่อสู้ระหว่างทหารพม่าและกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ยะไข่
เมืองสิตตะเว เมืองเอกของรัฐยะไข่อยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์และเคอร์ฟิวในช่วงเวลากลางคืนตั้งแต่สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนจะมีคำสั่งขยายพื้นที่ล็อกดาวน์ออกไปอีก 4 เมืองในเช้าวันพุธ (26) และจากนั้นประกาศล็อกดาวน์ทั้งรัฐในเย็นวันเดียวกัน
“เนื่องจากผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ประชาชนในทุกเมืองของรัฐยะไข่ต้องอยู่กับบ้านเพื่อให้การป้องกันการแพร่ระบาดมีประสิทธิภาพ” คำแถลงของกระทรวงสาธารณสุขและกีฬา ระบุ
ภายใต้กฎใหม่ เจ้าหน้าที่อนุญาตให้ตัวแทน 1 คนของแต่ละครอบครัว ออกจากบ้านไปจับจ่ายสิ่งของจำเป็นได้ ซึ่งข้อยกเว้นนี้รวมถึงข้าราชการ และพนักงานโรงงาน
เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นออกตระเวนไปตามย่านที่อยู่อาศัยต่างๆ ในเมืองจอก์พยู พร้อมกับเครื่องขยายเสียงเตือนประชาชนให้สวมหน้ากากเมื่อออกจากบ้าน
ยอดผู้ติดเชื้อโควิดที่เพิ่มสูงอย่างรวดเร็วเกิดขึ้นในขณะที่ประเทศกำลังเตรียมการเลือกตั้งระดับชาติ ซึ่งเพิ่มความวิตกว่าการเลือกตั้งในวันที่ 8 พ.ย. อาจได้รับผลกระทบ
รัฐยะไข่ ที่เป็นพื้นที่เกิดเหตุความขัดแย้งทางศาสนาและชาติพันธุ์มายาวนาน มีประชากรอาศัยอยู่เกือบ 3.2 ล้านคน ตามข้อมูลสำมะโนประชากรปี 2557 ชาวมุสลิมโรฮิงญาหลายแสนคนไม่ได้รวมอยู่ในสำมะโนประชากรนี้ พวกเขาถูกจำกัดขอบเขตอยู่ในค่ายพักใกล้เมืองสิตตะเว หรือในหมู่บ้านต่างๆ ที่จำกัดการเคลื่อนไหวอย่างเข้มงวดตั้งแต่ปี 2555
พื้นที่ตอนเหนือของรัฐยะไข่ยังเป็นพื้นที่ที่เกิดสงครามกลางเมืองระหว่างทหารและกองทัพอาระกัน กลุ่มกบฏที่เรียกร้องสิทธิในการปกครองตนเองให้วพุทธยะไข่
การปะทะรุนแรงส่งผลให้พลเรือนหลายหมื่นต้องหลบหนีออกจากบ้านไปอาศัยในค่ายผู้พลัดถิ่นในพื้นที่ที่สัญญาณอินเทอร์เน็ตถูกตัดมานานกว่า 1 ปี.