สาวเขมรรวมตัวโพสต์ภาพชุดว่ายน้ำประท้วงร่างกฎหมายคุมการแต่งกาย

รอยเตอร์ - หญิงสาวชาวกัมพูชาได้รวมตัวกันบนสื่อสังคมออนไลน์เพื่อประณามร่างกฎหมายที่ถูกเสนอขึ้นเพื่อกำกับควบคุมการแต่งกายของผู้คนในที่สาธารณะ ซึ่งรวมทั้งการโพสต์รูปตัวเองขณะอยู่ในชุดว่ายน้ำและชุดรัดรูปแนบเนื้อ พร้อมกับร่วมลงชื่อในคำร้องคัดค้านความเคลื่อนไหวดังกล่าวของทางการ

ร่างกฎหมายที่ระบุว่าเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีของกัมพูชา จะกำหนดห้ามผู้หญิงสวมใส่สิ่งใดก็ตามที่ดู ‘สั้นเกินไป’ หรือ ‘มองเห็นทะลุ’ ซึ่งทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความคลุมเครือไม่ชัดเจนของร่างกฎหมาย และยังเป็นการส่งเสริมวัฒนธรรมของการกล่าวโทษเหยื่อ

ร่างกฎหมายที่จะมีผลในปีหน้าหากผ่านการอนุมัติรับรองจากกระทรวงต่างๆ และรัฐสภา ยังกำหนดห้ามผู้ชายเปลือยท่อนบนเมื่ออยู่ในที่สาธารณะ ในประเทศอนุรักษนิยมแห่งนี้

“ยินดีด้วย พวกเรากำลังกลับไปในยุค 1960” ลิซ่า มัม ศิลปินชาวเขมร โพสต์บนเฟซบุ๊ก

ทั้งจิตรกร ผู้สร้างภาพยนตร์ นักเขียน และนักดนตรีต่างร่วมวงวิพากษ์วิจารณ์ร่างกฎหมายดังกล่าว พร้อมกับตั้งคำถามถึงบทบาทของกระทรวงกิจการสตรี หลังจากข้อจำกัดเกี่ยวกับรูปลักษณ์ภายนอกของผู้หญิงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นักแสดงและนักร้องหญิงตกเป็นเป้าของรัฐบาลมากขึ้นอันเนื่องจากการแต่งกายของพวกเธอ และบางคนถึงขั้นถูกห้ามทำการแสดง

กระแสความไม่พอใจจากสาธารณชนปะทุขึ้นอีกครั้ง หลังจากหญิงสาวรายหนึ่งถูกตัดสินจำคุกนาน 6 เดือนเมื่อเดือน เม.ย. ด้วยข้อหากระทำอนาจาร จากการสวมเสื้อผ้าที่ดูเซ็กซี่ขณะขายสินค้าผ่านทางไลฟ์เฟซบุ๊ก

“เป็นเรื่องที่หาได้ยากมากที่ร่างกฎหมายจะถูกส่งต่อกันเช่นนี้ ทำให้เรามีโอกาสที่จะพูดคุยถึงประเด็นเหล่านี้ในสังคม ปฏิกิริยาบนสื่อสังคมออนไลน์เป็นไปในทางบวกอย่างมาก ผู้คนจากทุกภาคส่วนของสังคมกำลังพูดถึงประเด็นความเท่าเทียมกันทางเพศ” เอง จันดี ผู้จัดการโครงการองค์กรการกุศล Gender and Development for Cambodia กล่าว

คำร้องออนไลน์ที่ประณามร่างกฎหมายฉบับนี้ มีผู้ร่วมลงนามคัดค้านเกือบ 14,000 ชื่อจนถึงวันพฤหัสฯ (6) ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้แก่ผู้ตั้งคำร้อง

“ทีแรก ฉันไม่ได้คิดเรื่องคำร้องนอกเหนือไปจากสร้างความตระหนักรู้เท่านั้น แต่กลายเป็นว่าทุกคนต่างคัดค้านร่างกฎหมาย จนถึงจุดที่มีคำขอให้ให้ยื่นคำร้องนี้ต่อรัฐบาล” โมลิกา กล่าว

กลุ่มสิทธิสตรีวิตกกังวลว่า กฎหมายใหม่จะทำให้ผู้หญิงตกอยู่ในความเสี่ยงต่อการคุกคามทางเพศและความรุนแรงมากขึ้น

ชาวเขมรจำนวนมากคาดหวังให้ผู้หญิงต้องเป็นผู้ที่เรียบร้อย อ่อนน้อม และสงบเงียบ ตามบทกวีเก่าแก่ Chbab Srey ที่เป็นแนวทางปฏิบัติหลักจารีตสำหรับสตรีในประเทศ ที่สหประชาชาติกล่าวเมื่อปีก่อนว่าควรยุติการสอนค่านิยมเหล่านี้ในโรงเรียน.