MGR ออนไลน์ - การก่อสร้างรถไฟฟ้าสายแรกของนครโฮจิมินห์อาจต้องล่าช้าออกไปอีก หลังวิศวกรชาวต่างชาตินับร้อยคนที่ทำงานในโครงการนี้ยังไม่สามารถเดินทางเข้าเวียดนามได้
ผู้เชี่ยวชาญดังกล่าวทำงานให้แก่บริษัทฮิตาชิ ที่เป็นผู้รับเหมาจากญี่ปุ่นที่รับผิดชอบโครงการรถไฟฟ้าในส่วนของการติดตั้งรางและอุปกรณ์บำรุงรักษา และตู้โดยสารสำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายเบ๊นแถ่ง-เสือยเตียน (Ben Thanh-Suoi Tien) ตามการเปิดเผยของคณะกรรมการบริหารจัดการรถไฟนครโฮจิมินห์ (MAUR)
วิศวกร 82 คนจากทั้งหมด 100 คน เป็นกลุ่มวิศวกรจากหลากหลายประเทศ มีกำหนดเดินทางมาเวียดนามในเดือน มี.ค. เพื่อควบคุมงาน และวิศวกรชาวญี่ปุ่นอีก 18 คน มีกำหนดเดินทางมาในเดือน มิ.ย. พร้อมกับรถไฟฟ้าขบวนแรกของเส้นทาง แต่เนื่องจากการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ทำให้วิศวกรทั้ง 2 กลุ่ม ไม่สามารถเดินทางมาได้
นอกจากนี้ การจัดส่งอุปกรณ์จากอิตาลีและเยอรมนีก็ล่าช้ากว่ากำหนด รวมทั้งแผนที่จะส่งวิศวกรชาวเวียดนามเดินทางไปญี่ปุ่นเพื่อเข้าฝึกอบรมการดำเนินการรถไฟฟ้าก็ล่าช้าเช่นกัน ซึ่งจากเหตุการณ์ทั้งหมดข้างต้นอาจเป็นผลให้การทดสอบวิ่งในช่วงเส้นทางยกระดับที่ก่อสร้างแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ ต้องล่าช้าออกไป โฆษก MAUR กล่าว
ผู้อำนวยการ MAUR เพิ่งร้องขอให้รัฐบาลอนุญาตให้วิศวกรทั้ง 100 คน เดินทางเข้าประเทศหากพวกเขามีผลตรวจโควิด-19 เป็นลบจากประเทศต้นทาง โดยวิศวกรเหล่านี้จะถูกกักตัวเป็นเวลา 14 วัน ยังที่พักใกล้กับสถานที่ก่อสร้าง
รถไฟฟ้าสายที่ 1 ของนครโฮจิมินห์ มีระยะทางรวม 20 กิโลเมตร ซึ่งส่วนหนึ่งของเส้นทางประมาณ 2.6 กิโลเมตร จะเป็นเส้นทางใต้ดิน โดยรถไฟฟ้าสายเบนแถ่ง-เสือยเตียน มีสถานีทั้งหมด 14 สถานี เป็นสถานียกระดับ 11 สถานี และสถานีใต้ดิน 3 สถานี สำหรับค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างอยู่ที่ 1,960 ล้านดอลลาร์
รายงานระบุว่า เป้าหมายการก่อสร้างคือให้งานคืบหน้า 85% ในปีนี้ เพื่อให้รถไฟฟ้าสายแรกของศูนย์กลางทางเศรษฐกิจทางภาคใต้ของประเทศสามารถเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ได้ในภายในสิ้นปี 2564 โดยปัจจุบันโครงการมีความคืบหน้าแล้ว 75%.