เอเอฟพี - ท่ามกลางลิ้นจี่กองโตในตลาดค้าส่งแห่งหนึ่งใน จ.บั๊กซยาง ทางภาคเหนือของเวียดนาม เกษตรกรหลายคนกำลังบ่นถึงราคาผลไม้ที่ร่วงลงอย่างต่อเนื่องด้วยเหตุผู้ค้าต่างชาติถูกกักกันโรค
จากการตอบสนองต่อการระบาดของโควิด-19 ในเชิงรุก ทำให้วิถีชีวิตของชาวเวียดนามกลับสู่ภาวะปกติ คนงานรวมตัวกันโดยไม่สวมหน้ากากอนามัย โดยที่รถจักรยานยนต์ของพวกเขามีตะกร้าขนาดใหญ่พ่วงท้ายซึ่งแน่นล้นไปด้วยลิ้นจี่สดใหม่จากสวน
ตามปกติแล้ว เวียดนามส่งออกลิ้นจี่สดประมาณ 100,000 ตันในแต่ละฤดูกาล คิดเป็นมูลค่ามากกว่า 30 ล้านดอลลาร์ โดยปลายทางส่วนใหญ่คือ จีน ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และสหรัฐฯ แต่ธุรกิจต้องชะงักลงในปีนี้เมื่อเวียดนามยังคงดำเนินมาตรการปิดพรมแดน
“เพราะการระบาดทำให้พวกเราไม่เห็นพ่อค้าชาวจีน พวกเราส่วนใหญ่เลยขายให้แก่พ่อค้าภายในประเทศ ราคาเลยถูกลงมาก” เหวียน วัน แถ่ง กล่าว และเสริมว่าโดยปกติแล้ว ลิ้นจี่ครึ่งหนึ่งของเขาจะขายให้ต่างชาติ
ผู้ซื้อต่างชาติมักจะเดินทางมาที่ตลาดโดยตรง ด้วยระยะทางขับรถจากชายแดนจีนเพียงไม่กี่ชั่วโมง แต่สื่อทางการรายงานเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า มีชาวจีนและญี่ปุ่นหลายร้อยคนถูกกักตัวเพื่อเฝ้าสังเกตโรคเป็นเวลา 14 วัน
แม้เจ้าหน้าที่กล่าวว่าพวกเขาจะช่วยส่งเสริมประชาสัมพันธ์การบริโภคภายในประเทศ แต่ราคาก็ร่วงลงถึงครึ่งจากราคาที่พวกเขาเคยขายได้เมื่อปีก่อน
“เราต้องทำงานหนักตลอดทั้งปี แต่รายได้กลับไม่พอเลี้ยงชีพ” เกษตรกรอายุ 47 ปี ที่คาดการณ์ว่าจะทำรายได้ในฤดูกาลนี้ไม่เกิน 4,000 ดอลลาร์ กล่าว
ในช่วงหลายปีมานี้ เวียดนามที่เป็นประเทศผู้ส่งออกกาแฟ ข้าว และปลาดุกเป็นหลักอยู่แล้ว ได้เริ่มหันมาให้ความสนใจกับผลไม้ของประเทศ โดยในปี 2562 เวียดนามส่งออกผักและผลไม้รวมมูลค่าราว 3,760 ล้านดอลลาร์.