รอยเตอร์ - เจ้าหน้าที่กัมพูชาได้กล่าวป้องการรณรงค์ต่อต้านยาเสพติด หลังถูกตำหนิประณามว่าเต็มไปด้วยการกระทำทารุณและละเมิดสิทธิ โดยระบุว่า เรื่องสิทธิมนุษยชนนั้นต้องละไว้ชั่วคราวในการต่อสู้กับยาเสพติดที่ทำลายครอบครัวและกระตุ้นให้เกิดอาชญากรรมรุนแรง
ความคิดเห็นดังกล่าวเกิดขึ้นเพื่อตอบโต้รายงานขององค์การนิรโทษกรรมสากลที่ระบุว่า การปราบปรามยาเสพติดของกัมพูชาทำให้มีผู้ถูกจับกุมตัวกว่า 55,000 คน และนำไปสู่การทรมานและทำให้เรือนจำแออัดยัดเยียด รวมทั้งยังกระตุ้นให้เกิดการทุจริตคอร์รัปชันอีกด้วย
องค์การนิรโทษกรรมสากลอ้างข้อมูลจากการสัมภาษณ์คนจำนวนหนึ่งที่อธิบายถึงการจับกุมโดยพลการของตำรวจ และการทรมานในเรือนจำและศูนย์บำบัดยาเสพติด
ด้านโฆษกกระทรวงมหาดไทยกัมพูชายอมรับว่าอาจมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนเกิดขึ้น แต่ได้กล่าวปกป้องการทำสงครามยาเสพติด
“เมื่อเป็นการรณรงค์ต่อต้านยาเสพติด ก็จะไม่มีการเคารพสิทธิมนุษยชน” เคียว สุภาค โฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าว
เคียว สุภาพ ยังปฏิเสธการยืนยันขององค์การนิรโทษกรรมสากลที่ว่า ตำรวจได้กระทำการจับกุมโดยพลการ และเรียกสินบนจากผู้ถูกควบคุมตัวเพื่อให้พ้นจากคุก
ประชากรเรือนจำของกัมพูชาเพิ่มขึ้นสูงถึง 78% นับตั้งแต่ปี 2560 และเรือนจำ CC1 ซึ่งเป็นเรือนจำที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ มีนักโทษอยู่ถึง 9,500 คน ซึ่งเป็นจำนวนที่มากกว่าความจุสูงสุดของเรือนจำถึง 5 เท่า ตามการระบุขององค์การนิรโทษกรรมสากล
เกือบ 60% ของนักโทษทั้งหมดในเรือนจำของกัมพูชาถูกควบคุมตัวจากข้อหาเกี่ยวกับยาเสพติด กลุ่มสิทธิมนุษยชน ระบุ
ชิน มาลิน โฆษกกระทรวงยุติธรรมกัมพูชากล่าวว่า รัฐบาลวางแผนที่จะประกาศมาตรการจัดการกับความแออัดของเรือนจำในสัปดาห์หน้า