xs
xsm
sm
md
lg

ผู้นำเวียดไฟเขียวฟื้นกิจการบางส่วน ธุรกิจไม่จำเป็นยังปิดต่อเนื่อง ห้ามต่างชาติเข้าประเทศ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



MGR ออนไลน์ - นายกรัฐมนตรีเหวียน ซวน ฟุ้ก ของเวียดนาม อนุญาตให้ท้องที่ต่างๆ ฟื้นการผลิตและธุรกิจต่างๆ เว้นแต่บริการที่ไม่จำเป็นบางอย่างยังคงต้องระงับการให้บริการเช่นเดิม เนื่องจากสถานการณ์ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ยังมีความเสี่ยงต่อการระบาดเช่นเดิม

ในคำสั่งที่ออกเมื่อวันเสาร์ (25) หลังรัฐบาลคลายมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ผู้นำเวียดนามได้ร้องขอให้ประชาชนงดการรวมตัวทางศาสนา การแข่งขันกีฬา และการจัดเทศกาลในสถานที่สาธารณะ รวมทั้งงานที่ไม่จำเป็นต่างๆ ส่วนธุรกิจที่ไม่จำเป็น เช่น บาร์ คาราโอเกะ ร้านนวด ร้านเสริมสวย และสถานบันเทิงต่างๆ ยังคงต้องปิดทำการจนกว่าจะมีคำสั่งใหม่

ธุรกิจที่สามารถกลับมาดำเนินกิจการได้คือ บริการค้าส่งและค้าปลีก ลอตเตอรี่ โรงแรมและที่พัก ร้านอาหารและแผงขายอาหาร แต่ธุรกิจเหล่านี้ต้องดำเนินมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดต่างๆ เช่น การจัดหาชุดป้องกันให้แก่พนักงาน การตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย และการหลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิด

สำหรับพื้นที่ที่ถูกจัดให้เป็นพื้นที่เสี่ยงของการระบาดของโควิด-19 ยังคงห้ามการรวมตัวของผู้คนมากกว่า 20 คนขึ้นไป ประชาชนควรอยู่แต่ในบ้าน และรักษาระยะห่างอย่างน้อย 1 เมตร ระหว่างกันในที่สาธารณะ

นายกฯ เหวียน ซวน ฟุ้ก ยังขอให้ราษฎรที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงระดับต่ำไม่ออกจากบ้านโดยไม่จำเป็น และห้ามรวมกลุ่มมากกว่า 30 คนขึ้นไปในที่สาธารณะ

กรุงฮานอย นครโฮจิมินห์ จ.บั๊กนีง และ จ.ห่าซยาง ถูกจัดอยู่ในกลุ่มพื้นที่เสี่ยง ขณะพื้นที่ส่วนที่เหลือของประเทศอยู่ในกลุ่มพื้นที่เสี่ยงระดับต่ำ

ผู้นำเวียดนามยังอนุญาตให้การขนส่งสาธารณะระหว่างจังหวัดกลับมาให้บริการได้อีกครั้ง แต่ผู้โดยสารและคนขับรถต้องสวมหน้ากากและดำเนินมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด


ส่วนภาคการศึกษาจำเป็นต้องลดจำนวนนักเรียนในห้องเรียน ปรับเวลาการเรียนการสอน ช่วงเวลาพักเที่ยง และกิจกรรมกลุ่ม เพื่อเลี่ยงการรวมกลุ่มแออัด และเพิ่มการเรียนผ่านทางออนไลน์

ทั้งนี้ เวียดนามยังคงจำกัดการเดินทางเข้าประเทศสำหรับชาวต่างชาติ และผู้ที่ได้รับอนุญาตเข้าเวียดนามต้องถูกกักกันโรคเพื่อสังเกตอาการเป็นเวลา 14 วัน

การระงับการเดินทางเข้าประเทศของชาวต่างชาติ เริ่มตั้งแต่วันที่ 22 มี.ค. มีเพียงชาวเวียดนามและชาวต่างชาติที่ถือหนังสือเดินทางทูตและราชการ รวมทั้งผู้จัดการธุรกิจ ผู้เชี่ยวชาญ และแรงงานทักษะสูงที่ได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศในตอนนี้ และผู้ที่เดินทางเข้ามาทั้งหมดจะต้องถูกกักกันโรคเป็นเวลา 14 วันเช่นกัน

นายกฯ ฟุ้ก กล่าวว่า หลัง 3 สัปดาห์ของการดำเนินมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมที่เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. ช่วยให้ประเทศสามารถตรวจพบผู้ป่วยติดเชื้อและควบคุมจุดเสี่ยงโควิด-19 ระบาด จำกัดอัตราการติดเชื้อในชุมชน รวมถึงประสบความสำเร็จในการรักษาผู้ป่วยติดเชื้อเป็นส่วนใหญ่ และไม่มีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ในประเทศ แต่อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความเสี่ยงที่จะเกิดการระบาดได้อีก

ปัจจุบัน จำนวนผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศอยู่ที่ 270 คน เป็นตัวเลขที่น้อยกว่าประเทศส่วนใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และประเทศอื่นๆ ในโลก และจากจำนวนดังกล่าวมีผู้ที่ได้รับการรักษาจนหายเป็นปกติแล้ว 225 คน.




กำลังโหลดความคิดเห็น