รอยเตอร์ - เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำกัมพูชาระบุว่า รู้สึกไม่สบายใจกับทฤษฎีสมคบคิดที่ถูกสร้างขึ้นจากเรื่องราวที่ไม่เป็นความจริงในการพิจารณาคดีกบฏขายชาติของ แกม สุขา หัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน ที่ถูกกล่าวหาว่าวางแผนที่จะโค่นล้มนายกรัฐมนตรีฮุนเซน
แกม สุขา ถูกจับกุมตัวในปี 2560 ขณะที่พรรคการเมืองของเขาถูกศาลสูงสั่งยุบพรรค ในการปราบปรามฝ่ายตรงข้าม กลุ่มประชาสังคม และสื่อโดยรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีฮุนเซนที่เกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้งปี 2561 ซึ่งพรรครัฐบาลชนะทุกที่นั่งในสภา
ข้อหากบฏขายชาติของแกม สุขา เกิดขึ้นจากการกล่าวหาว่าเขากำลังสมคบคิดกับสหรัฐฯ ที่จะโค่นล้มฮุนเซน ซึ่งปกครองกัมพูชาด้วยกำปั้นเหล็กมาเป็นเวลานานกว่า 3 ทศวรรษ แต่แกม สุขา ปฏิเสธข้อกล่าวหาเหล่านั้น โดยระบุว่า เป็นข้อกล่าวหาที่มีแรงจูงใจทางการเมือง
“เรารู้สึกไม่สบายใจที่เห็นอัยการเสนอทฤษฎีสมคบคิดเกี่ยวกับสหรัฐฯ ที่ถูกสร้างขึ้นจากเรื่องราวที่ไม่เป็นความจริงขึ้นมาในห้องพิจารณาคดี” แพทริค เมอร์ฟีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ กล่าวกับนักข่าวหลังเข้าร่วมการพิจารณาคดีของแกม สุขา เป็นเวลาสั้นๆ ในวันนี้ (12)
“นี่คือความจริง สหรัฐฯ ได้ให้ความช่วยเหลือกัมพูชาเกือบ 3,000 ล้านดอลลาร์ในช่วงหลายสิบปีมานี้ รวมทั้งการให้ความช่วยเหลืออย่างโปร่งใสเพื่อเสริมสร้างสถาบันและพรรคการเมืองต่างๆ ที่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญของกัมพูชา” เมอร์ฟีย์ กล่าว
เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำกัมพูชายังกล่าวอีกว่า แกม สุขา มีชื่อเสียงไปทั่วโลกในฐานะนักต่อสู้เพื่อสิทธิและเสรีภาพ และหวังที่จะได้เห็นสิทธิทางการเมืองของตัวเขาเองกลับคืนมาอย่างสมบูรณ์
“กระบวนการนี้มีความหมายอย่างยิ่งสำหรับหลักนิติธรรมและกระบวนการที่เหมาะสมในกัมพูชา และสำหรับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของประเทศ รัฐบาลสหรัฐฯ ได้แสดงอย่างชัดเจนว่า สหรัฐฯ ไม่เคยแสวงหาการแทรกแซงการปกครองของกัมพูชา และเราเคารพเอกราชและอำนาจอธิปไตยของกัมพูชา” เมอร์ฟีย์ กล่าวเสริม
ในขณะที่เมอร์ฟีย์พูดกับนักข่าวนั้น มีเจ้าหน้าที่เขตพยายามที่จะเข้าขวาง แต่เอกอัครราชทูตสามารถกล่าวถ้อยแถลงได้จนจบก่อนเดินทางกลับ
พาย สีพัน โฆษกรัฐบาลได้แสดงความเห็นถึงคำกล่าวของเมอร์ฟีย์ว่า ทุกฝ่ายควรปล่อยให้ศาลทำงาน
“เราขอให้ประชาชนทุกคน ที่รวมถึงชาวต่างชาติและชาวเขมร เฝ้ารอและฟังศาล ฟังอัยการ ถึงวิธีที่พวกเขากล่าวหาและโต้แย้ง เราไม่ต้องการการแทรกแซงการพิจารณาคดี” พาย สีพัน กล่าว
การปราบปรามของฮุนเซนที่เกิดขึ้นกับฝ่ายค้านยังทำให้สหภาพยุโรปตัดสิทธิพิเศษทางการค้าบางอย่างของกัมพูชาในปีนี้ ซึ่งสหภาพยุโรปกล่าวว่า เป็นผลจากการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างเป็นระบบและร้ายแรงของรัฐบาล.