รอยเตอร์ - สหภาพนักศึกษาพม่าเผยว่า ตำรวจพยายามที่จะฟ้องร้องสมาชิก 9 คนของกลุ่มจากการจัดชุมนุมประท้วงต่อต้านการปิดกั้นสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่ดำเนินมานานถึง 8 เดือน ในพื้นที่ทางตะวันตกของประเทศ
นักศึกษาประมาณ 100 คน ได้รวมตัวกันในนครย่างกุ้งเมื่อวันอาทิตย์ (23) เรียกร้องการยุติการตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตในรัฐยะไข่ และรัฐชิน พื้นที่ที่มีพลเรือนบาดเจ็บล้มตายเพิ่มมากขึ้นในขณะที่กองกำลังทหารของรัฐเข้าต่อสู้กับกลุ่มกบฏชาติพันธุ์
คดีความถูกยื่นฟ้องตามมาตรา 19 ของกฎหมายว่าด้วยการชุมนุมอย่างสันติ ที่กำหนดว่า การชุมนุมโดยไม่ได้รับอนุญาตถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและมีโทษจำคุกสูงสุด 3 เดือน สหภาพนักศึกษาอาระกันระบุในคำแถลง
“เราเป็นนักศึกษาและพลเมืองที่ชี้ให้เห็นการกระทำผิดของรัฐบาล” จ่อ ลิน หนึ่งในนักศึกษาที่เข้าร่วมการชุมนุมกล่าวกับรอยเตอร์ทางโทรศัพท์
“พวกเขาละเมิดสิทธิพลเมืองของเรา” จ่อ ลิน กล่าวและว่า มีนักศึกษาอีก 6 คน ถูกตำรวจควบคุมตัว
เจ้าหน้าที่จากเขตกะมายุต ของนครย่างกุ้ง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่การชุมนุมประท้วงถูกจัดขึ้น ได้ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นเมื่อรอยเตอร์ติดต่อไป ส่วนโฆษกรัฐบาลระบุว่า เขาไม่สามารถตอบคำถามทางโทรศัพท์ได้
เจ้าหน้าที่ได้ปิดการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตทางโทรศัพท์มือถือใน 9 เมืองของรัฐชินและรัฐยะไข่ในเดือน มิ.ย.2562 โดยอ้างเหตุผลด้านความปลอดภัย ขณะเดียวกัน ต่อมาทางการได้ยกเลิกการปิดกั้นอินเทอร์เน็ตใน 5 เมือง แต่ก็กลับมาปิดสัญญาณอีกครั้งในต้นเดือน ก.พ.
การชุมนุมประท้วงต่อต้านการปิดสัญญาณอินเทอร์เน็ตยังเกิดขึ้นใน 2 เมืองของรัฐยะไข่ในวันเสาร์ (22)
อย่างไรก็ตาม หากนักศึกษาเหล่านี้ถูกตัดสินว่าผิด พวกเขาจะถูกปรับเงินหรือจำคุกสูงสุด 3 เดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ
รัฐยะไข่เป็นพื้นที่ที่ทหารดำเนินการปราบปรามในปี 2560 ที่ทำให้ชนกลุ่มน้อยมุสลิมโรฮิงญามากกว่า 730,000 คน ต้องอพยพหลบหนีไปบังกลาเทศ กองทัพอธิบายว่า การปราบปรามที่เกิดขึ้นเป็นปฏิบัติการปราบปรามผู้ก่อความไม่สงบอย่างถูกต้องตามกฎหมายเพื่อตอบโต้การโจมตีของกลุ่มติดอาวุธโรฮิงญา และภูมิภาคนี้ต้องตกอยู่ในความโกลาหลเพิ่มขึ้นอีกตั้งแต่เดือน ธ.ค.2561 จากการสู้รบระหว่างทหารและกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบกองทัพอาระกัน ที่เกณฑ์กำลังมาจากชาวพุทธชาติพันธุ์ยะไข่ และกำลังเรียกร้องสิทธิในการปกครองตนเองมากขึ้น.
