รอยเตอร์ - การปราบปรามในกัมพูชากับบรรดาหญิงสาวที่สวมชุดวาบหวิวเซ็กซี่ขณะขายสินค้าผ่านไลฟ์เฟซบุ๊ก ถูกกลุ่มสิทธิสตรีวิจารณ์ว่าเป็นเรื่องที่อันตรายและไร้มูลความจริง
นายกรัฐมนตรีฮุนเซน ระบุว่า การสวมเสื้อคอลึกดูวาบหวิวเป็นสิ่งที่ขัดต่อวัฒนธรรมของกัมพูชา และมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ติดตามผู้ขายบนเฟซบุ๊กที่สวมเสื้อผ้าในลักษณะดังกล่าวเพื่อขายสินค้า เช่น เสื้อผ้าและผลิตภัณฑ์ความงาม
“ติดตามไปถึงที่ของพวกเขาและสั่งให้พวกเขาหยุดไลฟ์จนกว่าพวกเขาจะเปลี่ยนเป็นชุดที่เหมาะสม นี่เป็นการละเมิดวัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมของเรา” ฮุนเซน กล่าว และเสริมว่า พฤติกรรมดังกล่าวก่อให้เกิดการล่วงละเมิดทางเพศและความรุนแรงต่อผู้หญิง
ในขณะที่ประชากรวัยหนุ่มสาวของกัมพูชาได้รับการศึกษาเพิ่มขึ้น แต่หลายคนยังคงคาดหวังว่า ผู้หญิงต้องเป็นผู้ที่เชื่อฟังและสงบเงียบเรียบร้อย ตามแนวทางปฏิบัติสำหรับผู้หญิงที่ส่งต่อผ่านรุ่นสู่รุ่น ซึ่งอยู่ในรูปของบทกวีที่ชื่อว่า “Chbap Srey” และบรรจุอยู่ในหลักสูตรการเรียนระดับประถมศึกษาจนถึงปี 2550
สำนักงานตำรวจแห่งชาติโพสต์คลิปวิดีโอบนเฟซบุ๊กเมื่อวันพุธ (19) เป็นผู้หญิงชาวเขมรรายหนึ่งกล่าวขอโทษต่อสาธารณชนที่ทำให้ประเพณีและเกียรติยศของผู้หญิงกัมพูชาต้องมัวหมองจากการใส่ชุดที่ดูเซ็กซี่และสั้นจู๋ระหว่างการขายสินค้าทางออนไลน์
ด้านโฆษกกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่า เจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการตามคำสั่งของนายกฯ ฮุนเซน
อย่างไรก็ตาม นิโคลัส เบเกอลิน ผู้อำนวยการองค์การนิรโทษกรรมสากลประจำภูมิภาค กล่าวว่า ความเห็นของฮุนเซนนั้นถือเป็นตัวอย่างที่อันตรายของการกล่าวโทษเหยื่อ
“ถ้อยความเช่นนี้ยิ่งทำให้ความรุนแรงต่อผู้หญิงยังคงอยู่ และเป็นการตราหน้าผู้รอดชีวิตจากความรุนแรงทางเพศ” นิโคลัส เบเกอลิน กล่าว
จากการสำรวจของสหประชาชาติในปี 2556 พบว่า หนึ่งใน 5 ของผู้ชายชาวเขมร ระบุว่า พวกเขาเคยข่มขืนผู้หญิง
รส สุเพียบ หัวหน้าองค์กรการกุศลของกัมพูชา กล่าวว่า รัฐบาลควรพิจารณาถึงเหตุผลที่ผู้หญิงต้องออกมาขายสินค้าออนไลน์ มากกว่าที่จะมากำกับบังคับสิ่งที่พวกเขาสวมใส่
“พวกเขามักพูดแต่เรื่องวัฒนธรรม วัฒนธรรม และวัฒนธรรม แล้วเรื่องอาชีพ? การศึกษา? สิทธิของผู้คนในการหาเลี้ยงชีพ? สิ่งเหล่านี้สูญสลายไปแล้วในกัมพูชา” รส สุเพียบ กล่าวกับรอยเตอร์
กลุ่มสิทธิสตรีกัมพูชา 7 กลุ่ม ชี้ว่า แม่ค้าเหล่านี้ไม่ได้กระทำสิ่งที่ละเมิดกฎหมาย
“ไม่มีงานวิจัยเชิงประจักษ์ที่ยืนยันว่าเสื้อผ้าที่ผู้หญิงเลือกสวมใส่เป็นต้นตอให้เกิดความเสื่อมโทรมของศีลธรรมทางสังคม” กลุ่มสิทธิสตรีกัมพูชาระบุในจดหมายเปิดผนึก.