MGR ออนไลน์ -- ชาวเวียดนามออนไลน์นับหมื่นๆ หรือนับแสนๆ คน ได้แสดงความขุ่นเคืองและขุ่นข้องหมองใจ เมื่อได้เห็นวิดีโอความยาวเกือบ 5 นาทีชิ้นหนึ่ง เผยแพร่ผ่านโซเชียลมีเดียในช่วงไม่กี่วันมานี้ แสดงให้เห็นหนุ่มสาวคู่หนึ่งแสดงบทแบบเลิฟซีนกันโจ่งครึ่มในโรงภาพยนต์ซีจีวีกลางกรุงฮาฃนอย โดยใช้ "สวิทบ๊อกซ์" ที่นั่งพิเศษเป็นเวทีสู่สวรรค์ -- คนที่เป็นพ่อแม่ผู้ปกครองต่างเป็นห่วงเป็นใยเรื่องนี้อย่างที่สุด ขณะที่นักกฎหมายกับนักสิทธิมนุษยชนต่างเคลื่อนไหวกันคึกคัก ถกเถียงกันแบบเอาเป็นเอาตาย
เนื่องจากเป็นสิ่งที่เคยพบเคยเห็นมาก่อนในสังคมคอมมิวนิสต์ คลิปกับภาพนิ่งจากเหตุการณ์เดียวกันนี้ ได้ทำให้เกิดคำถามขึ้นมากมายทั้งในแง่สิทธิ์ส่วนบุคคล กับการกระทำการอนาจาร และ การละเมิดศีลธรรมแห่งสังคม
คลิปบันทึกเวลาเอาไว้ตอน 21.44 น.ซึ่งบอกให้ทราบว่า เป็นภาพยนตร์รอบดึกในคืนวันพฤหัสบดี 26 ก.ค. -- คลิปถูกนำออกเผยแพร่ในอีก 3 วันต่อมา -- ฝ่ายบริหารของโรงภาพยนต์ CGV ออกยืนยันว่า วิดีโอกับภาพถ่ายที่อยู่ในความสนใจขณะนี้ เป็นเหตุการณ์ที่บันทึกไว้โดยกล้องวงจรปิดระบบอินฟราเรดที่ติดตั้งไว้ภายในโรงภาพยนตร์จริง และ ในชั่นต้นนี้ได้สั่งพักงาน เจ้าหน้าที่ของบริษัทผู้นำออกเผยแพร่แล้ว บริษัทฯ พร้อมให้ความร่วมมือแก่ทุกฝ่ายเพื่อทำเรื่องนี้ให้กระจ่าง
ตามรายงานของซิงออนไลน์ คลิปช่วงที่เป็นปัญหานี้มีความยาวเกือบ 20 นาที หนุ่มสาวคู่นี้ใช้ที่นั่งพิเศษ หรือ "สวีทบ๊อกซ์" (Sweet Box) เป็นเวทีในการประกอบกามกิจ เนื่องจากเป็นที่นั่งแบบมีผนังปิดทั้ง 2 ข้างมิดชิด กันการรบกวน และไม่มีพักแขนกั้นระหว่างกัน กล้องคุณภาพสูงทำให้มองเห็นใบหน้าของทั้งฝ่ายหญิงและชายอย่างชัดเจน -- เจ้าหน้าที่ผู้นำออกเผยแพร่ได้รวบรัดให้เหลือ 4 นาทีเศษเท่านั้น แต่ใบหน้าของบุคคลทั้งสองก็ปรากฎชัดเจนเช่นเดียวกัน
บริษัทซึ่งเป็นเจ้าของเชนโรงภาพยนตร์ใหญ่ที่สุดในเวียดนามแห่งนี้ กล่าวว่ากล้องอินฟราเรดติดตั้งเพื่อความปลอดภัยของผู้ไปใช้บริการ และ ที่นั่งพิเศษดังกล่าวก็จัดให้บริการสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกเหมือนกันดูภาพยนตร์ใน "มินิเธียเตอร์" ที่บ้าน และ สวีทบ๊อกซ์ที่านี่ก็เป็นบริการมาตรฐานเดียวกันกับโรงภาพยนตร์ CGV และโรงภาพยนตร์เครืออื่นๆ อีกหลายแห่งทั่วโลก มิได้จัดบริการนี้ขึ้นมาด้วยจุดประสงค์อื่น
.
ชาวเวียดนามออนไลน์หลายคนตกอกตกใจที่ได้ทราบเรื่องนี้ ระบุว่าตนเองไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีการติดกล้องอินฟราเรดในโรงหนัง และ CGV ไม่เคยแจ้งเรืองนี้ให้ผู้ไปใช้บริการได้รับทราบ และ ถ้าหากรู้ล่วงหน้าก็อาจจะไม่มีเหตุการณ์เช่นในคลิปนี้ก็ได้ ขณะที่นักกฎหมายชี้ว่าการนำคลิปกับภาพนิ่งเหตุการณ์นี้ออกเผยแพร่ เข้าข่ายเป็นการล่วงละเมิดต่อสิทธิส่วนตัวของพลเมือง ที่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย บุคคลในคลิปสามารถฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายได้
แต่นักกฎหมายอีกจำนวนหนึ่งโต้แย้งว่า เรื่องแบบนี้ ซึ่งเกิดขึ้นภายในโรงภาพยนตร์ที่ถือเป็นสาธารณสถานสำหรับผู้คนทั่วไป ย่อมไม่สามารถจะอ้างความเป็นส่วนตัวใดๆได้ และ ถึงแม้ว่ากฎหมายจะไม่มีข้อห้ามระบุเอาไว้ชัดเจนว่า การทำรักกันในโรงภาพยนนตร์เป็นความผิด แต่หนุ่มสาวทั้งสองคนสามารถที่จะถูกดำเนินคดีฐานทำอนาจารในที่สาธารณะได้
"โรงภาพยนตร์เป็นแหล่งพบปะของคนมากหน้าหลายตา ทุกคนไปที่นั่นเพื่อชมภาพยนตร์ ถ้าหาก (พวกเอง) จะซั่มกัน ทำไมไม่ไปหาที่อื่นฟะ" ชาวออนไลน์ที่ใช้ชื่อ c.h. เขียนแสดงความเห็น ซึ่งไม่ต่างกับคนอีกหลายร้อยที่เห็นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นไม่ถูกกาละเทศะ แสดงให้เห็นความเสื่อมทางจิตใจและศีลธรรม ของบุคคลที่เกี่ยวข้อง
"พวกเองสมสู่กันไม่เลือกสถานที่ เหมือนหมูเหมือนหมาเข้าทุกวัน" อีกคนหนึ่งเขียนแสดงความเห็นอย่างเดือดดาล
แต่ก็ยังมีชาวเวียดนามเป็นจำนวนมาก ขณะที่ประณามการทำเซ็กซ์กันแบบโจ่งครึ่มในโรงภาพยนตร์ ก็ได้ประณามผู้ที่นำคลิปออกเผยแพร่เช่นเดียวกัน พร้อมกับชี้ว่า พนักงานคนนี้อาจเข้าข่ายเผยแพร่วัสดุหรือสิ่งพิมพ์ลามกในอินเตอร์เน็ต ซึ่งเป็นการะทำที่ขัดต่อกฎหมายว่าด้วยอินเตอร์เน็ตอีกด้วย
.
ถึงกระนั้นก็ยังมีบางคนพยายามสื่อสารกับสังคมว่า ผู้คนไม่ควรเป็นทุกข์กับเรื่องแบบนี้ให้มากนัก เพราะมีให้เห็นตามท้องถนน ในคอฟฟี่ช้อป หรือ แม้กระทั่งตามม้านั่งภายในห้างสรรพสินค้าก็เคยเห็นกันมาแล้ว -- แต่หลายคนโต้แย้งว่าการนั่งกอดจูบ พลอดรักกันในที่สาธารณะนั้นถือว่า น่ารังเกียจสำหรับผู้พบเห็นอยู่แล้ว การทำเซ็กซ์กันโจ่งครึ่มอย่างที่เห็นในคลิป ถือเป็นการละเมิดศีลธรรมอย่างร้ายแรง แบบคนละเรื่องกับที่เด็กๆ นั่งพลอดรักหรือกอดจูบกัน
พ่อแม่ผู้ปกครองจำนวนมากเขียนว่า ถึงเวลาที่ทุกครอบครัวควรกำกับดูแลลูกๆ อย่างใกล้ชิดมากกว่าครั้งไหนๆ ในขณะที่สังคมรอบข้างเต็มไปด้วยสิ่งยั่วยุ กับ ตัวอย่างในทางลบ
อย่างไรก็ตามฝ่ายบริหารของโรงภาพยนตร์ CGV บอกต่อซิงออนไลน์ว่า คลิปที่แพร่ผ่านสื่อประชาสังคมไม่กี่วันมานี้ ทำให้แปลกใจและถือเป็น "เซอร์ไพร้ส์" มาก เพราะไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน การติดตั้งกล้องวงจรปิดก็เพื่อความปลอดภัยของผู้ไปใช้บริการชมภาพยนตร์ ไม่ได้มีจุดประสงค์อืนใดอีก บริษัทฯ เคารพในสิทธิ์ส่วนตัวของลูกค้าทุกคน และไม่เคยมีการเปิดเผยเนื้อหาที่กล้องบันทึกเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอหรือเป็นภาพนิ่ง
โรงภาพยนตร์แห่งนี้ยังกล่าวอีกว่า ในชั้่นต้นนี้ได้สั่งพักงานเจ้าหน้าที่เวร ที่เป็นคนนำคลิปออกเผยแพร่เอาไว้ก่อน และ พร้อมจะให้ความร่วมมือกับเจ้าพนักงานสอบสวนหรือฝ่ายใดก็ตามที่ต้องการ เพื่อทำเรื่องนี้ให้กระจ่างต่อสายตาและความรู้สึกของสาธารณชน.