MGR ออนไลน์ -- ผู้พิพากษาศาลแขวงกรุงพนมเปญได้ออกคำสั่งตอนค่ำวันอาทิตย์ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา ให้จำคุกไว้ชั่วคราวชายชาวเขมรวัย 26 ปี ที่ถูกจับกุมในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และ แสดงความอาฆาตต่อองค์พระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นการกระทำผิดกฎหมายอาญา ในมาตราเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ที่ปรับปรุงแก้ไขใหม่ และ ผ่านการลงมติรับรองจากรัฐสภาเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา -- นับเป็นรายที่สามที่ถูกดำเนินคดีในข้อหาเดียวกันนี้
รายล่าสุดนี้โฟสต์ข้อความดูหมิ่นและข่มขู่เอาชีวิตองค์พระประมุขลงในเฟซบุ๊ก เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. และ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมในอีก 2 วันต่อมา ที่บ้านแขวงบึงเก็งก็อง เขตจัมการ์มอน ในเมืองหลวง -- เจ้าพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำและคุมขังผู้ต้องสงสัยรายนี้แล้วเสร็จ และ อยู่ระหว่างดำเนินการสั่งฟ้อง จึงได้ขออำนาจศาลเพื่อควบคุมตัวตัวต่อไป
ผู้ต้องหารายนี้ถูกนำตัวจากสถานีตำรวจท้องที่ ไปยังเรือนจำกลางเปรซอร์ (Prey Sar) ของกระทรวงมหาดไทย ในตอนค่ำวันเดียวกัน
สำนักข่าวออนไลน์ภาษาเขมรหลายแห่งรายงานว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายปราบปรามอาชญากรรมเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ ได้การติดตามจับกุมผู้ต้องรายล่าสุดตามหมายศาล โดยเริ่มแกะรอยจากภาพถ่าย ที่ถ่ายใน อ.เหมะโม๊ด (Memot) จ.ทบองคะมุม ทางตอนกลางของประเทศ จากนั้นได้ประสานความร่วมมือไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ จ.สวายเรียง โดยชายคนนี้่เคยทำงานอยู่ในพื้นจังหวัดดังกล่าว จนในที่สุดได้ทราบเบาะแสว่าปัจจุบันกลับไปเยี่ยมครอบครัวในเมืองหลวง จึงตามไปควบคุมตัวที่นั่น
เจ้าหน้าที่กล่าวว่าผู้ต้องหามีประวัติอาชญากรรม รวมทั้งเคยถูกศาลตัดสินจำคุกที่ จ.พระตะบอง อีกด้วย
ก่อนหน้านี้่ในวันที่ 13 พ.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจ จ.กัมปงธม ได้จับกุมข้าราชการครูวัย 50 ปี ตำแหน่งครูใหญ่โรงเรียนประถมศึกษาแห่งหนึ่ง หลังจากโพสต์ข้อความหมิ่นพระมหากษัตริย์ในเฟซบุ๊ก นับเป็นกรณีแรกที่ถูกจับกุมภายใต้กฎหมายใหม่ และมีเหตุจูงใจทางการเมือง ไม่พอใจที่พระมหาษัตริย์ทรงลงพระปรมาภิโธยในคำสั่งของศาล ที่ให้ยุบพรรคฝ่ายค้านใหญ่ที่สุดของประเทศเมื่อปลายปีที่แล้ว -- กล่าวหาว่าทั้งองค์พระประมุข พระราชบิดา และ พระเชษฐา ล้วนเป็น "ผู้ทรยศ"
วันที่ 13 พ.ค.เช่นเดียวกัน ตำรวจ จ.เสียมราฐ ก็ได้จับกุมช่างตัดผมชาวเขมรวัย 70 ปีอีกคนหนึ่ง หลังจากได้แชร์รูปภาพที่มีการตัดต่อ แสดงการหยามหมิ่นพระมหากษัตริย์ ศาลแขวงจังหวัดได้สั่งคุมขังมาตั้งแต่วันนั้น นับเป็นรายที่ 2 ที่ถูกดำเนินคดีภายใต้กฎหมายอาญาฉบับปรับปรุงแก้ไข ซึ่งความผิดดังกล่าวมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับ 500-2,500 ดอลลาร์ หรีอ ทั้งจำทั้งปรับ.
.
