รอยเตอร์ - เจ้าหน้าที่กัมพูชาได้เข้าขัดขวางแผนการของนักเคลื่อนไหวฝ่ายค้านที่ลี้ภัยอยู่ต่างแดน ที่จะวางระเบิดใน 2 เมืองสำคัญของประเทศ ไม่กี่วันก่อนที่กัมพูชาจะเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ (สงกรานต์) ตามการเปิดเผยของนายกรัฐมนตรีฮุนเซน วันนี้ (10)
ผู้นำเขมรกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้งทั่วไปในเดือน ก.ค. ที่คาดการณ์กันอย่างกว้างขวางว่า ฮุนเซนจะชนะการเลือกตั้ง ด้วยพรรคฝ่ายค้านพรรคใหญ่ของประเทศถูกยุบพรรค และบรรดาแกนนำพรรคยังมีคดีความที่ขัดขวางพวกเขาจากการมีส่วนในการเลือกตั้ง
ฮุนเซน กล่าวต่อนักศึกษาในกรุงพนมเปญ ว่า สม สเร หัวหน้ากลุ่มฝ่ายค้านในเดนมาร์ก ได้วางแผนที่จะวางระเบิดในกรุงพนมเปญ และ จ.เสียมราฐ ในวันพฤหัสฯ นี้ (12)
“นี่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากคนทรยศที่ชื่อ สม สเร ที่สั่งการโจมตีจนก่อให้เกิดแผนการวางระเบิด” ฮุนเซน กล่าว และว่า เขาได้เข้าขัดขวางแผนการดังกล่าวแล้ว
“เราควบคุมสถานการณ์ไว้ได้แล้ว” ผู้นำเขมร กล่าว
ฮุนเซนไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมถึงแผนการที่คาดว่าจะเกิดขึ้นกับเจดีย์สำคัญในกรุงพนมเปญจุดหนึ่ง และอีกจุดหนึ่งใน จ.เสียมราฐ
สม สเร ผู้นำกลุ่มที่มีชื่อว่าแนวร่วมปลดปล่อยแห่งชาติเขมร (Khmer National Liberation Front-KNLF) ไม่สามารถติดต่อเพื่อขอความเห็นได้
ในอดีต เจ้าหน้าที่กัมพูชาได้กล่าวหากลุ่มเกี่ยวกับแผนการต่างๆ และในปี 2557 ศาลได้ตัดสินความผิดต่อสมาชิกกลุ่ม 13 คน ในข้อหาวางแผนที่จะโค่นล้มรัฐบาล ซึ่งกลุ่มสิทธิมนุษยชนกล่าวในตอนนั้นว่า คดีความดังกล่าวเป็นความพยายามที่จะทำลายความน่าเชื่อถือของฝ่ายค้าน
สม สเร ถูกตัดสินความผิดแม้ไม่ปรากฏตัวในศาลในปี 2559 โดยได้รับโทษจำคุกนาน 9 ปี
แม้จะมีรายงานเกี่ยวกับการวางแผนต่อต้านรัฐบาลหลายครั้ง แต่ฮุนเซนยังคงกุมอำนาจไว้อย่างเหนียวแน่นนานหลายสิบปี ซึ่งนักวิจารณ์ระบุว่า ฮุนเซนข่มขู่ฝ่ายตรงข้าม และโกงเลือกตั้ง ขณะที่กลุ่มสิทธิมนุษยชนวิจารณ์การละเมิดสิทธิของรัฐบาล
ฮุนเซน และรัฐบาลปฏิเสธข้อกล่าวหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนเหล่านั้น และกล่าวว่า พวกเขาได้นำสันติภาพ เสถียรภาพ และความรุ่งเรืองมาสู่ประเทศที่ยากจนที่สุดแห่งหนึ่งของเอเชีย หลังอยู่ภายใต้สงคราม และความไม่มั่นคงมานานหลายทศวรรษ
ลาว มง เฮ นักวิเคราะห์การเมืองกล่าวว่า แผนการต้องสงสัยล่าสุดนี้ไม่ควรถูกใช้เป็นข้ออ้างในการปราบปราม
“ผมหวังว่าแผนการโจมตีที่ถูกกล่าวหาจะไม่ถูกใช้เป็นข้ออ้างที่จะดำเนินมาตรการด้านความมั่นคงที่เข้มงวดยิ่งขึ้น และจำกัดสิทธิและเสรีภาพของประชาชนกัมพูชายิ่งขึ้นไปอีก” นักวิเคราะห์การเมือง กล่าว.
