รอยเตอร์ - นางอองซานซูจี เรียกร้องให้ประชาชนชาวพม่าคงไว้ซึ่งความสมัครสมานสามัคคี โดยระบุว่า พม่าเผชิญต่อความท้าทายอย่างมากมายทั้งภายในประเทศ และต่างประเทศ ในการกล่าวสุนทรพจน์เนื่องในโอกาสครบรอบ 2 ปี ที่พรรคของซูจีเข้าบริหารประเทศจากการเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์
ในการกล่าวสุนทรพจน์ทางโทรทัศน์ ซูจี ได้อ้างถึงวิกฤตรัฐยะไข่ ที่รัฐบาลของเธอเผชิญต่อการตำหนิจากต่างชาติสำหรับปฏิบัติการทางทหารที่เกิดขึ้นกับชาวมุสลิมโรฮิงญา จนทำให้ชนกลุ่มน้อยเหล่านี้เกือบ 700,000 คน ต้องหลบหนีไปบังกลาเทศ
ซูจี ยังต้องพยายามทำตามความคาดหวังที่สูงลิบของประชาชน ที่ส่งให้พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) ก้าวเข้าสู่อำนาจในปี 2559 และกำลังพยายามโต้แย้งการวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และการต่อสู้ที่ยังคงเกิดขึ้นกับกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์
ในการกล่าวสุนทรพจน์ ซูจี เรียกร้องให้ประชาชนมีความสามัคคี โดยระบุว่า ประชาคมโลกมุ่งความสนใจมาที่รัฐยะไข่ในตอนนี้ พม่าจำเป็นต้องพัฒนาประเทศอย่างสงบสุข พร้อมทั้งเรียกร้องประชาชนให้เคารพความตั้งใจ และวิสัยทัศน์ของประชาคมโลก
รัฐบาลพลเรือนภายใต้การนำของซูจี ไม่ได้ควบคุมทหารที่ดำเนินการปราบปรามในรัฐยะไข่เพื่อตอบโต้การโจมตีของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบที่เกิดขึ้นกับกองกำลังรักษาความมั่นคงในเดือน ส.ค.
สหรัฐฯ และสหประชาชาติ ระบุว่า ปฏิบัติทางทหารเป็นการกวาดล้างชาติพันธุ์ชาวโรฮิงญา ซึ่งทางการพม่าปฏิเสธ
ซูจี ยังกล่าวว่า สิ่งสำคัญประการแรกคือ การยุติการต่อสู้ระหว่างกลุ่มกบฏชาติพันธุ์ และทหาร
“ขณะที่การสร้างความสงบสุข และเสถียรภาพเป็นสิ่งจำเป็นสำคัญสำหรับประเทศของเรา ดังนั้นเราจำเป็นต้องสามัคคี” ซูจี กล่าว.