เอพี - พล.อ.อาวุโส มิน ออง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของพม่า เรียกร้องให้กลุ่มกบฏชาติพันธุ์กลุ่มต่างๆ ของประเทศ เห็นชอบกับข้อตกลงหยุดยิงในตอนนี้ และหยุดเสียเวลากับการเรียกร้องในสิ่งที่เขาระบุว่า เป็นไปไม่ได้
ในพิธีสวนสนามเนื่องในวันกองทัพพม่ายังบริเวณลานกว้างขนาดใหญ่นอกกรุงเนปีดอ ที่มีนายทหารเข้าร่วมมากกว่า 11,000 นาย พร้อมทั้งเครื่องบินรบและเฮลิคอปเตอร์อีกจำนวนหนึ่ง พล.อ.อาวุโส มิน ออง หล่าย กล่าวว่า การต่อสู้กับกลุ่มกบฏที่แสวงหาการปกครองตนเองที่ดำเนินมานานหลายสิบปีเป็นเหตุให้การพัฒนาของพม่าล้าหลังกว่าประเทศเพื่อนบ้าน
ทหารพม่าปกครองประเทศมานานครึ่งศตวรรษ ซึ่งระหว่างนั้นทหารถูกกล่าวหาว่ากระทำการละเมิดสิทธิอย่างกว้างขวางก่อนจะมอบอำนาจให้แก่รัฐบาลพลเรือนในปี 2559 แต่ทหารยังคงรับผิดชอบในประเด็นด้านความมั่นคง และยังคงเผชิญกับข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิเช่นเดิม
ทหารอยู่เบื้องหลังข้อตกลงหยุดยิงแห่งชาติ และมีกองกำลังกลุ่มชาติพันธุ์เพียงไม่กี่กลุ่มที่ร่วมลงนามข้อตกลงดังกล่าว หลายกลุ่มยังคงปฏิเสธและต้องการเจรจาใหม่ ด้วยแสวงหาการปกครองตนเองในทางการเมืองและเศรษฐกิจ
การต่อสู้อย่างรุนแรงยังคงเกิดขึ้นเป็นระยะในเขตพื้นที่ของรัฐกะฉิ่นและรัฐชาน ที่กลุ่มชาติพันธุ์ในพื้นที่ยืนยันว่าต้องการการแก้ปัญหาทางการเมืองอย่างครอบคลุมก่อนวางอาวุธ
ในการกล่าวสุนทรพจน์ พล.อ.อาวุโส มิน ออง หล่าย กล่าวว่า กลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ควรหยุดถ่วงเวลา และได้กล่าวโทษความแตกต่างขัดแย้งในหมู่กลุ่มชาติพันธ์และศาสนาที่มีอยู่หลากหลายจากนโยบายแบ่งแยกแล้วปกครองของอังกฤษ และชี้ให้เห็นว่าทุกฝ่ายควรละทิ้งความไม่พอใจจากอดีต
“ตอนนี้คือเวลาในการเรียนรู้บทเรียนจากอดีตและดำเนินการเพื่อพัฒนาประเทศ” ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของพม่า กล่าว
รัฐบาลพลเรือนภายใต้การนำของนางอองซานซูจี ได้ให้คำมั่นว่าสิ่งสำคัญลำดับต้นของรัฐบาลคือการสร้างสันติภาพและความปรองดองแห่งชาติ แม้ทหารยังติดพันในการต่อสู้กับกลุ่มติดอาวุธในรัฐกะฉิ่นและรัฐชาน และการปราบปรามผู้ก่อความไม่สงบชนกลุ่มน้อยมุสลิมโรฮิงญา
ในช่วงการปกครองของรัฐบาลพลเรือนที่ทหารให้การสนับสนุนชุดก่อนหน้า มีกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ 8 กลุ่มลงนามข้อตกลงหยุดยิง และมีกลุ่มชาติพันธุ์กลุ่มเล็กๆ 2 กลุ่ม ลงนามข้อตกลงกับคณะบริหารของซูจีเมื่อเดือนก่อน.