รอยเตอร์ - กัมพูชาโต้กลับการวิพากษ์วิจารณ์ของสหรัฐฯ เกี่ยวกับการตัดสินใจของรัฐบาลที่ขับไล่กลุ่มสนับสนุนประชาธิปไตย โดยกล่าวหาว่า วอชิงตันแทรกแซงการเมือง และยังเรียกประชาธิปไตยของอเมริกันว่า เป็นประชาธิปไตยที่โหดร้าย และนองเลือด
นายกรัฐมนตรีฮุนเซน ของกัมพูชา ที่ปกครองประเทศมากว่า 30 ปี แสดงท่าทีต่อต้านอเมริกันอย่างแข็งกร้าว ท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มสูงก่อนถึงการเลือกตั้งในปี 2561
กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ วิจารณ์การตัดสินใจของกัมพูชาที่ขับไล่สถาบันประชาธิปไตยแห่งชาติ (NDI) ซึ่งได้ทุนสนับสนุนจากสหรัฐฯ เมื่อวันพุธ (23) และคำแถลงจากสถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงพนมเปญ ได้ตั้งคำถามว่า กัมพูชาเป็นประชาธิปไตยหรือไม่
ในจดหมายเปิดผนึกที่ออกเผยแพร่ในวันนี้ (24) รัฐบาลกัมพูชาได้ตั้งคำถามต่อสหรัฐฯ ว่าที่สหรัฐฯ มากัมพูชานั้นเพื่อช่วยเหลือ หรือขัดขวางชาวเขมร พร้อมยังกล่าวโทษสหรัฐฯ ว่าเป็นเหตุให้เขมรแดงเกิดขึ้น
“ชาวกัมพูชาต่างตระหนักดีถึงกระบวนการทางประชาธิปไตย คุณไม่จำเป็นต้องบอกเราว่ามันเป็นอย่างไร” จดหมายเปิดผนึกระบุ ที่ยังกล่าวว่าประชาธิปไตยแบบสหรัฐฯ คือ การนองเลือด และความโหดร้ายทารุณ
“เราต้องการที่จะส่งข้อความที่ชัดเจนนี้ไปยังสถานทูตสหรัฐฯ อีกครั้งว่าเราปกป้องอธิปไตยของชาติเรา” ข้อความในจดหมายเปิดผนึกระบุ
ความตึงเครียดเพิ่มสูงขึ้นอีกระลอกในกัมพูชา ขณะที่กลุ่มสิทธิมนุษยชน และสหประชาชาติแสดงความวิตก และฝ่ายค้านกล่าวหาว่า ฮุนเซนดำเนินการปราบปรามก่อนจะถึงการเลือกตั้งในปีหน้า
หลังรัฐบาลมีคำสั่งขับไล่ NDI และขู่ที่จะปิดหนังสือพิมพ์ซึ่งก่อตั้งโดยนักข่าวอเมริกันหากไม่จ่ายภาษีย้อนหลังโดยทันทีนั้น กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ แสดงความวิตกว่า รัฐบาลกัมพูชากำลังจำกัดเสรีภาพสื่อ และความสามารถในการดำเนินการขององค์กรประชาสังคม.