MGRออนไลน์ -- บริษัทรัสเซียเฮลิคอปเตอร์ส (Russian Helicopters) ในเครือรัฐวิสาหกิจรอสเท็ค (ROSTEC) ผู้ผลิตอากาศยานปีกหมุนรายใหญ่ ได้ผลิต ฮ.รุ่นใหม่ออกมาภายใต้รหัส Mi-171Sh-VN สำหรับภารกิจต่อต้านการก่อการร้ายโดยเฉพาะ โดยติดระบบป้องกันตนเองที่เรียกว่า "President S" รวมทั้งติดระบบอาวุธโจมตี ทั้งนำวิถีและไม่นำวิถีหลากหลายชนิด ทำให้ ฮ.ขนส่งที่ได้รับความนิยมอย่างมากในตลาดโลกรุ่นนี้ กลายเป็น ฮ.โจมตีเต็มพิกัด
บริษัทนี้กล่าวว่า กระทรวงกลาโหมอนุมัติให้ ส่งออก Mi-171Sh-VN ให้แก่ลูกค้าที่สนใจได้ ทั้งนี้เป็นรายงานของสำนักข่าวทาสส์ (TASS/ทัส)
"Mi-171Sh-VN เป็นเวอร์ชั่นใหม่ที่ก้าวหน้า ของเฮลิคอปเตอร์ขนส่งในครอบครัว Mi-8/17 ที่อัปเดทขึ้นใหม่ โดยโรงงานอากาศยานอูลาน-อูเด (Ulan-Ude Aviation Plant) มีพร้อมส่งมอบให้แก่ลูกค้าที่มีศักยภาพแล้ว" สำนักข่าวของทางการ รายงานอ้างเอกสารแถลงข่าว ของ RH ในงานนิทรรศการอากาศยานและอวกาศ MAKS-2017 ที่จะเริ่มในสัปดาห์หน้านี้ ที่ท่าอากาศยานนานาชาติซูคอฟสกี ชานกรุงมอสโก
นายอันเดร โบกินสกี (Andrey Boginsky) ซีอีโอของ RH กล่าวว่า การออกแบบทางเทคนิคของ Mi-171Sh-VN ทำขึ้นจากประสบการณ์การใช้งานที่ผ่านมา รวมทั้งในสงครามซีเรียด้วย
"เฮลิคอปเตอร์ถูกออกแบบใหม่ในหลายฟีเจอร์ ในการเสริมสมรรถนะด้านประสิทธิภาพ และ ความทนทานต่อความเสียหายจากการสู้รบ" เอกสารของ MR อ้างนายโบกินสกี
ฮ.รุ่นใหม่ล่าสุด ติดตั้งเครื่องยนต์รุ่นใหม่ ที่ประสิทธิภาพสูงกว่าเดิม บินได้ในระดับความสูงมากกว่าเดิม และ ออกปฏิบัติการได้ในทุกสภาพภูมิอากาศ รวมทั้งระบบการบรรทุกสัมภาระใหม่ ออกแบบโรเตอร์ใหม่ใช้โลหะผสม ทำเป็นรูปไขว้แบบอักษรเอ็กซ์ (X) ต่อต้านแรงบิด สามารถบินด้วยความเร็วปรกติได้ 260 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และความเร็วสูงสุด 280 กม/ชม รับน้ำหนักเมื่อขึ้นบินได้ 13,500 กก. ทาสส์กล่าว
นอกจากนั้นยังติดตั้งอุปกรณ์ควบคุมการบินใหม่ กระจกห้องนักบิน ติดตั้งอุปกรณ์อะนาล็อก ทนทานต่อความเสียหาย จากการสู้รบมากยิ่งขึ้น ติดตั้ง ระบบป้องกันตนเอง President S สามารถตรวจจับอาวุธปล่อยนำวิถี ที่ฝ่ายตรงข้ามยิงเข้าใส่ ส่งสัญญารบกวนการนำวิถีของหัวรบ และ ปล่อยเป้าลวงแบบ "บัลลูนร้อน" ให้ชนแทน
ห้องนักบิน กับส่วนบรรทุกสัมภาระ หุ้มด้วยวัสดุเคฟลาร์ (Kevlar/วัสดุใช้ทำเสื้อเกราะ) ข้างลำตัวด้านซ้ายกับด้านขวา หุ้มด้วยเคฟลาร์เช่นกัน นอกจากนั้นที่นั่งของบักบินกับลูกเรือ ยังใช้ระบบยืดหยุ่น รองรับการลงจอด ช่วยเพิ่มโอกาสความปลอดภัยของทุกคน จากการกระแทก ในยามจอดที่รุนแรง (hard landing) และ ยังติดระบบอาวุธได้หลายระบบ
.
.
ฟีเจอร์หลักๆ ระบบอาวุธของ Mi-171Sh-VN ประกอบด้วย อาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่พื้น นอกเหนือจากปืนกลอากาศ 12.7 มม. ที่ติดตั้งข้างประตู ทั้งซ้ายและขวา กับอีก 2 กระบอกติดตั้งบนแท่นด้านหน้า ก็ยังติดอาวุธที่ไม่นำวิถี กับลูกระเบิดได้หลายชนิด/ขนาด
ในขณะที่ส่ง Mi-8 กับ Mi-17 ไปทำหน้าที่สนับสนุนในซีเรีย รัสเซียส่งเฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธ Mi-24 "ฮายด์" (Hind) กับ "ไอ้เคี่ยม" ฮ.พิฆาต Ka-52 (Alligator) ออกปฏิบัติการในซีเรียบ่อยครั้ง จึงมีประสบการณ์มากที่สุด ในการโจมตีเป้าหมายจำเพาะ ทางพื้นดินด้วยอากาศยานปีกหมุน ซึ่งเป็นภารกิจที่เครื่องบินโจมตีทิ้งระเบิดไอพ่น ไม่สามารถปฏิบัติการแทนได้
ในช่วง 2 ปีมานี้ มีวิดีโอถ่ายทำโดยกลุ่มก่อการร้ายไอซิส หลายชิ้นแสดงให้เห็นปฏิบัติการของ ฮ.โจมตีกับ ฮ.พิฆาตของรัสเซีย ในบางกรณีนักบินนำ ฮ.ลงบินต่ำ เกือบติดพื้น ไล่ยิงกลุ่มก่อการร้าย ราวกับการปะทะกันบนท้องถนน
เท่าที่มีการยื่นยันอย่างเป็นทางการ ในสงครามซีเรียที่ผ่านมามี Mi-24 ถูกยิงตก 1 ลำ ด้วยอาวุธปล่อยนำวิถีแบบ "แมนแพด" (MANPAD/ประทับไหล่ยิง) ขณะปฏิบัติการโจมตีกลุ่มไอซิส ที่ยึดครองเขตโบราณสถานพาลมีรา (Palmyra) อีก 1 ลำ ถูกยิงตก ขณะบินระยะต่ำค้นหาลูกเรือของ ฮ.อีกลำที่ลงจอดฉุกเฉิน ทั้งสองกรณีนักบินเสียชีวิตทั้งหมด
จากอากาศปีกหมุนเพื่อการขนส่างธรรมดา Mi-17 ถูกนำไปติดอาวุธ กลายเป็น ฮ.โจมตีที่เพรียบพร้อม และ ด้วยขนาดเล็กกว่า เบากว่า ราคาถูกกว่า และ มีค่าใช้จ่ายต่อเที่ยวปฏิบัติการ ต่ำกว่า Mi-24 หรือ Ka-52 จึงกลายเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ในอุตสาหกรรมกลาโหม
ในบรรดาลูกค้าของ Mi-17 ยังรวมทั้งกองทัพบกไทย ซึ่งจัดหาล็อตแรกจำนวน 5 ลำเมื่อหลายปีก่อน 3 ลำแรกส่งถึงสนามบินอู่ตะเภ่า เดือน ก.พ.2554 โดยเครื่องบินขนส่งขนาดใหญ่ของรัสเซีย บรรจุประจำการที่ จ.ลพบุรี อีก 2 ลำต่อมาส่งถึงไทยในเดือน พ.ย.2558 ครบจำนวน Mi-17V5 ได้เข้าร่วมการฝึกคอบร้าโกลด์ เป็นครั้งแรกในปีเดียวกัน กองทัพบกไทยจัดหาอีก 12 ลำในปีนี้ สื่อทางการรัสเซียรายงานเรื่องนี้ ตั้งแต่เดือน ก.พ. ระหว่างงานสิงคโปร์แอร์โชว์ และ ได้รับการยืนยัน จาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เดือน พ.ค.ที่ผ่านมา.