รอยเตอร์ - กลุ่มสังเกตการณ์เพื่อสิทธิมนุษยชนซีเรีย "ซีเรีย อ็อบเซิร์พเวทอรี ฟอร์ ฮิวแมนไรท์ส" บอกกับรอยเตอร์ในวันอังคาร(11ก.ค.) มีข้อมูลยืนยันว่า อาบู บัคร์ อัล-บัคดาดี ผู้นำสูงสุดของกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส) เสียชีวิตแล้ว
รายงานข่าวนี้มีขึ้นไม่กี่วันหลังจากกองทัพอิรักทวงพื้นที่สุดท้ายของเมืองโมซุลทางเหนือของอิรักคืนจากไอเอสได้แล้ว หลังถูกพวกนักรบของบัคดาดี บุกจู่โจมเข้ายึดเมื่อราวๆ 3 ปีก่อน
กระทรวงกลาโหมรัสเซียเคยระบุเมื่อเดือนมิถุนายนว่า ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศเที่ยวหนึ่งของพวกเขาที่ถล่มแหล่งรวมตัวของเหล่าผู้บัญชาการของไอเอส รอบนอกเมืองรอกเกาะห์ของซีเรีย อาจปลิดชีพ บัคดาดี อย่างไรก็ตามวอชิงตันไม่ยืนยันข้อมูลดังกล่าว ส่วนเจ้าหน้าที่ตะวันตกและอิรักต่างก็แสดงความเคลือบแคลงต่อคำกล่าวอ้างนั้น
อย่างไรก็ตามล่าสุด รามี อัลดุลราห์มาน ผู้อำนวยการซีเรีย อ็อบเซิร์พเวทอรี ฟอร์ ฮิวแมนไรท์ส ซึ่งมีสำนักงานในลอนดอน เปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า "เราได้ข้อมูลยืนยันจากพวกแกนนำของไอเอส ในนั้นรวมถึงหนึ่งในแกนนำระดับสูงรายหนึ่งที่เป็นชาวซีเรีย ซึ่งอยู่ในเมืองเดียร์ อัล-ซอร์ ทางตะวันออกของประเทศ"
อัลดุลราห์มาน ระบุว่าเขาได้รับคำบอกเล่าจากแหล่งข่าวไอเอสบอกว่าบัคดาดีตายแล้ว แต่พวกเขาไม่ได้เจาะจงว่าเมื่อไหร่ โดยแหล่งข่าวเผยด้วยว่าในช่วง 3 เดือนหลัง บัคดาดี หลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ชนบททางตะวันออกของซีเรีย รอบๆเดียร์ อัล-ซอร์
กระนั้นก็ตามเป็นอีกครั้งที่เพนตากอนบอกว่าพวกเขาไม่มีข้อมูลยืนยันความถูกต้องของรายงานดังกล่าว เช่นเดียวกับพวกเจ้าหน้าที่เคิร์ดและอิรักที่ยังไม่ยืนยันข้อมูลนี้เช่นกัน
การตายของบัคดาดี เคยถูกประกาศหลายต่อหลายครั้งก่อนหน้านี้ แต่คราวนี้มันถูกยืนยันโดยกลุ่มซีเรีย อ็อบเซิร์พเวทอรี ฟอร์ ฮิวแมนไรท์ส ซึ่งมีประวัติความน่าเชื่อถือต่อรายงานสถานการณ์ต่างๆเกี่ยวกับสงครามซีเรีย อย่างไรก็ตามจนถึงตอนนี้เว็บเซต์ต่างๆและสื่อสังคมออนไลน์ที่เชื่อมโยงกับกลุ่มไอเอส ยังไม่พูดอะไรในเรื่องดังกล่าว
หากการตายของ บัคดาดี ซึ่งประกาศสถาปนาการปกครองแบบกาหลิบเหนือมุสลิมทั้งมวล จากมุสยิดแห่งหนึ่งในโมซุลเมื่อปี 2014 เป็นความจริง มันจะเป็นความเสียหายครั้งใหญ่หลวงของพวกญิฮาดกลุ่มนี้ ซึ่งกำลังพยายามปกป้องพื้นที่ยึดครองในซีเรียและอิรัก ที่หดลงทุกที
สหรัฐฯตั้งรางวัลนำจับเขา 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จำนวนเดียวกับค่าหัวของอุซามะห์ บิน ลาดิน ผุ้นำของอัลกออิดะห์และอัยมาน อัล-ซอวาฮิรี ผู้สืบทอดของเขา
