xs
xsm
sm
md
lg

“ฮุนเซน” เยือนเวียดนามกระชับมิตรภาพ-ความร่วมมือ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

<br><FONT color=#000033>นายกรัฐมนตรีฮุนเซนของกัมพูชา (ซ้าย) สัมผัสมือกับนายกรัฐมนตรีเหวียน ซวน ฟุ้ก ของเวียดนาม พร้อมถ่ายภาพร่วมกันที่ทำเนียบรัฐบาลในกรุงฮานอย วันที่ 20 ธ.ค. -- Reuters/Kham.</font></b>

เวียดนามเน็ต - นายกรัฐมนตรีฮุนเซน ของกัมพูชา เดินทางเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 20-21 ธ.ค. ตามคำเชิญของนายกรัฐมนตรีเหวียน ซวน ฟุ้ก ของเวียดนาม ท่ามกลางมิตรภาพ และความร่วมมือที่เติบโตขึ้นระหว่างสองประเทศ

ความร่วมมือระหว่างสองประเทศขยายตัวครอบคลุมหลากหลายด้าน และได้รับการส่งเสริมสนับสนุนจากการแลกเปลี่ยนการเยือนของเจ้าหน้าที่ในระดับต่างๆ

ในด้านเศรษฐกิจ เวียดนามเป็นผู้ลงทุนรายใหญ่ที่สุดอันดับ 5 ในกัมพูชา รองจากจีน เกาหลีใต้ สหภาพยุโรป และมาเลเซีย ผ่านการลงทุน 183 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 2,860 ล้านดอลลาร์ ขณะที่กัมพูชา ดำเนินโครงการการลงทุน 12 โครงการ มูลค่า 54 ล้านดอลลาร์ในเวียดนาม

เวียดนามในตอนนี้ยังเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับ 3 ของกัมพูชาด้วยมูลค่าการค้าสองทางระหว่างสองประเทศอยู่ที่ 3,370 ล้านดอลลาร์ในปี 2558 และ 2,380 ล้านดอลลาร์ เมื่อนับจนถึงสิ้นเดือน ต.ค.2559 ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าของเวียดนาม และกระทรวงการค้าของกัมพูชาได้ลงนามข้อตกลงว่าด้วยการส่งเสริมการค้าทวิภาคี

ในปี 2558 มีชาวเวียดนามประมาณ 1 ล้านคน เดินทางเยือนกัมพูชา ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาเดินทางเยือนเวียดนาม 210,000 คน และในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2559 มีชาวกัมพูชา 172,690 คน เดินทางท่องเที่ยวในเวียดนาม ขณะที่มีชาวเวียดนาม 695,670 คน เยือนกัมพูชาในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา

กลไกความร่วมมือทวิภาคี ที่รวมทั้งคณะกรรมการร่วมเวียดนาม-กัมพูชาเพื่อความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และวิทยาศาสตร์-เทคโนโลยี ได้ทำงานร่วมกันเพื่อส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจและการดูแลสุขภาพ วัฒนธรรม และการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนต่อประชาชน

ในด้านความมั่นคงและการป้องกัน ยังทวีความร่วมมือมากขึ้น ผ่านการแบ่งปันข้อมูล การแก้ไขปัญหาชายแดน การลาดตระเวนร่วมทางทะเล และการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดในการค้นหาและส่งกลับทหารอาสาสมัครชาวเวียดนามที่เสียชีวิตในช่วงสงครามในกัมพูชา

ทั้งสองประเทศได้ยึดหลักการการไม่อนุญาตให้กองทัพศัตรูใช้ดินแดนของประเทศดำเนินกิจกรรมที่เป็นการบ่อนทำลายความปลอดภัยและมั่นคงของอีกฝ่าย และพยายามที่จะบรรลุการปักปันเขตแดนตามแนวพรมแดนที่มีร่วมกันให้เสร็จสมบูรณ์โดยเร็ว เพื่อความสงบสุข ความมั่นคง ความร่วมมือ และการพัฒนาพื้นที่ชายแดนอย่างยั่งยืน.
.

.

.
กำลังโหลดความคิดเห็น