ปัตตานี - พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช เข้ารับมอบตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 สานต่อบทบาทสำคัญในการแก้ปัญหาชายแดนใต้
วานนี้ (1 ต.ค.) ที่เขาพระศรีศากยมุนีพุทธโคดม และศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พล.ท.วิวรรธน์ ปฐมภาคย์ แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 (ท่านเก่า) และ พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 (ท่านใหม่) ได้ร่วมสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในค่ายสิรินธร จากนั้น พล.ท.วิวรรธน์ ปฐมภาคย์ และ พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช ได้ขึ้นไปห้องรับรองกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เพื่อลงนามในเอกสารรับ-ส่งหน้าที่ พร้อมทั้งพบปะผู้นำศาสนา และกลุ่มพลังมวลชนที่มาต้อนรับ
ต่อจากนั้น ได้เดินทางมายังศาลาพินประเสริฐ ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เพื่อทำพิธีรับ-ส่งหน้าที่ โดยมี นายศุภณัฐ สิรันทวิเนติ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ผู้ว่าราชการจังหวัด ทั้ง 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ผู้แทนจากศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ คณะข้าราชการทหาร ตำรวจ พลเรือน กำลังพลจากหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ ผู้นำศาสนา และกลุ่มพลังมวลชนเข้าร่วมในพิธีเป็นจำนวนมาก หลังเสร็จสิ้นพิธีรับ-ส่งหน้าที่แล้ว พล.ท.วิวรรธน์ ปฐมภาคย์ และ พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช ได้เดินพบปะกับกลุ่มพลังมวลชนต่างๆ ที่มาร่วมแสดงความยินดี พร้อมทั้งรับมอบกระเช้าดอกไม้จากกลุ่มพลังมวลชนต่างๆ ที่นำมามอบให้
สำหรับประวัติของ พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 18 โรงเรียนนายร้อยจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 29 และได้รับคัดเลือดให้เข้ารับการอบรมหลักสูตรวิทยาลัยป้องกันราชอาราจักรรุ่นปี 55 บรรจุเข้ารับราชการครั้งแรก ณ กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 25 ค่ายรัตนรังสรรค์ จังหวัดระนอง เมื่อปี 2527 จนกระทั่งสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนเสนาธิการทหารบก ได้เลือกรับราชการในหน่วยงานด้วนการข่าว และได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่สำคัญ เช่น ผู้บังคับกองร้อย กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 25 ผู้บังคับหน่วยข่าวกรองทางทหาร ศูนย์ปฏิบัติการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ (ศปก.นสศ.) ผู้บังคับหน่วย 3222 ผู้บังคับหน่วยข่าวกรองทางทหาร ส่วนหน้าจังหวัดชายแดนภาคใต้ เสนาธิการหน่วยข่าวกรองทางทหาร รองผู้บัญชาการหน่วยข่าวกรองทางทหาร และขึ้นดำรงยศพลตรี ในตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบกปี 2557 ดำรงยศเป็นพลโท ในตำแหน่งที่ปรึกษากองทัพบก เมื่อเมษายน 2559 และได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 4 ตั้งแต่ 1 ต.ค.2559 เป็นต้นไป
ตลอดชีวิตการรับราชการที่ผ่านมา ท่านได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาความมั่นคงของชาติในรูปแบบต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง เช่น การนำกำลังเข้าปราบปรามผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ และโจรจีนคอมมิวนิสต์มลายา ภายใต้ยุทธการใต้ร่มเย็น ในห้วงปี 2528-2530 สามารถตรวจยึดฐานที่มั่น และนำไปสู่การยุติการสู้รบในที่สุด นอกจากนี้ ยังได้เข้าปฏิบัติงานด้านการข่าวสนับสนุนหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ และสนับสนุนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งแต่ปี 2557 จนถึง ปัจจุบัน โดยมีผลการปฏิบัติงานที่สำคัญ เช่น การพัฒนางานด้านการซักถามที่อยู่บนพื้นฐานของหลักสิทธิมนุษยชน การพัฒนางานด้านการข่าวเชิงรุก การพัฒนาระบบการแจ้งเตือนและกระจายข่าวสาร การบูรณาการและเพิ่มประสิทธิภาพระบบเฝ้าตรวจ ทำให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพงานด้านการข่าวที่นำไปสู่การติดตามจับคุมคนร้ายมาดำเนินคดีได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถแจ้งเตือนข้อมูลข่าวสารที่นำไปสู่การยับยั้งและทำลาย ความพยายามในการก่อเหตุได้อย่างต่อเนื่อง สามารถลดการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินได้จำนวนมาก
จากความรู้ และประสบการณ์ในการปฏิบัติงานตลอดห้วงเวลาที่ผ่านมา ประกอบกับได้ปฏิบัติงานในพื้นที่กองทัพภาคที่ 4 มาอย่างต่อเนื่อง ทำให้สามารถเข้าใจปัญหา เข้าใจระบบงาน และเข้าใจพี่น้องประชาชนอย่างลึกซึ้ง ซึ่งจะเป็นพื้นฐานสำคัญในการนำมาประยุกต์ใช้และเติมเต็มการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ภาคใต้ให้สอดคล้องต่อสถานการณ์ในรูปแบบต่างๆ จึงได้รับโปรดเกล้าให้ขึ้นดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เป็นผู้นำสูงสุดในการที่จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการแก้ปัญหาชายแดนใต้