เอเอฟพี - บ้านมากกว่า 1,000 หลัง ในหมู่บ้านของชาวโรฮิงญา ถูกเผาทำลายเสียหายในพื้นที่ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของพม่า ตามการวิเคราะห์ภาพถ่ายดาวเทียมที่ฮิวแมนไรท์วอช นำออกเผยแพร่ในวันนี้ (21) ซึ่งเป็นการตอบโต้การปฏิเสธของรัฐบาล
กองกำลังทหารระดมกำลังลงพื้นที่ตามแนวชายแดนติดบังกลาเทศ ที่พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่อยู่อาศัยของชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมโรฮิงญา นับตั้งแต่เกิดเหตุโจมตีหลายระลอกที่ด่านตำรวจชายแดนเมื่อเดือนก่อน
ประชาชนมากถึง 30,000 คน ต้องกลายเป็นผู้ไร้ที่อยู่อาศัยอันเนื่องจากเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้น ตามการรายงานของสหประชาชาติ และมีหลายสิบคนเสียชีวิตจากการระดมยิงโดยเฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธที่ทหารเสริมกำลังในการต่อสู้กวาดล้างผู้ก่อเหตุไม่สงบ
กองกำลังรักษาความมั่นคงได้สังหารผู้คนไปเกือบ 70 ราย และจับกุมผู้ต้องสงสัยมากกว่า 400 ราย นับตั้งแต่เข้าปิดล้อมพื้นที่เมื่อ 6 สัปดาห์ก่อน ตามการรายงานของสื่อทางการพม่า แต่นักเคลื่อนไหวระบุว่า ตัวเลขอาจสูงกว่าที่ทางการรายงานไว้
ชาวโรฮิงญาหลายร้อยคนได้พยายามที่จะหลบหนีความรุนแรงเข้าไปในบังกลาเทศ ที่เป็นประเทศเพื่อนบ้าน ด้านผู้เห็นเหตุการณ์ และนักเคลื่อนไหวได้รายงานว่า กองกำลังทหารสังหารชาวโรฮิงญา ข่มขืนผู้หญิง ปล้นทรัพย์สิน และเผาบ้านเรือนของคนเหล่านั้น แต่ฝ่ายรัฐบาลได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหา และว่าข้อกล่าวอ้างดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของแผนการให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องของกลุ่มผู้ก่อการร้าย
แม้ข้อเท็จจริงจากพื้นที่เกิดเหตุที่ตรวจสอบได้อย่างอิสระกลับไม่สามารถทำได้ เนื่องจากข้อจำกัดที่กำหนดขึ้นต่อผู้สื่อข่าว และหน่วยงานช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ในการเข้าถึงพื้นที่ แต่ในขณะเดียวกัน หลักฐานของการทำลายหมู่บ้านอย่างกว้างขวางนั้นกลับเพิ่มสูงขึ้น
ฮิวแมนไรท์วอช ระบุวันนี้ (21) ว่า หน่วยงานได้ตรวจพบโครงสร้างมากกว่า 820 จุด ถูกทำลายในหมู่บ้านชาวโรฮิงญา 5 แห่ง ในช่วงระหว่างวันที่ 10-18 พ.ย. จากภาพถ่ายดาวเทียม และหากนับรวมทั้งหมดตั้งแต่ทหารเข้าปิดล้อมพื้นที่ พบว่า มีสิ่งปลูกสร้างถูกทำลาย 1,250 จุด
ฝ่ายรัฐบาลกล่าวว่า มีบ้านไม่ถึง 300 หลัง ที่ถูกทำลายจากการโจมตีของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบที่ต้องการบ่มเพาะความเข้าใจผิดระหว่างกองกำลังรัฐบาล และประชาชน.