รอยเตอร์ - สื่อทางการของพม่ารายงานวันนี้ (13) ว่า เกิดเหตุปะทะกันระหว่างกองทัพพม่า และกลุ่มที่รัฐบาลเชื่อว่าเป็นผู้ก่อความไม่สงบชาวมุสลิมโรฮิงญา ในรัฐยะไข่ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 8 คน และจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยได้อีก 36 คน
การต่อสู้ครั้งล่าสุดเกิดขึ้นตลอดทั้งวันเสาร์ (12) ในหมู่บ้านทางตอนเหนือของรัฐยะไข่ ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ 1 นาย และทหาร 1 นาย เสียชีวิต และพบศพผู้โจมตีอีก 6 ศพในเวลาต่อมา ขณะที่ฝ่ายรัฐสามารถจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยที่เชื่อว่าเกี่ยวข้องต่อการโจมตีได้อีก 36 คน
หนังสือพิมพ์โกลบอล นิว ไลท์ ออฟ เมียนมาร์ รายงานว่า กลุ่มผู้โจมตีประมาณ 60 คน พร้อมอาวุธปืน มีด และหอก ได้ซุ่มโจมตีกองกำลังทหารของรัฐในเช้าวันเสาร์ (12) ทำให้ฝ่ายกองทัพเปิดฉากต่อสู้ แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งฝ่ายทหารได้เรียกเฮลิคอปเตอร์เข้าเสริมเพราะฝ่ายตรงข้ามมีจำนวนมากกว่า
ทหารได้ระดมกำลังลงพื้นที่ในรัฐยะไข่ ใกล้กับชายแดนบังกลาเทศ ตั้งแต่วันที่ 9 ต.ค. หลังกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบชาวโรฮิงญา ที่รัฐบาลเชื่อว่ามีความเชื่อมโยงต่อกลุ่มติดอาวุธหัวรุนแรงในต่างประเทศโจมตีฐานชายแดนพร้อมกันหลายจุด
ผู้สื่อข่าว และเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ถูกห้ามเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าว ขณะที่ประชาชนและนักเคลื่อนไหวเรียกร้องสิทธิมนุษยชนกล่าวหาว่า กองกำลังรักษาความปลอดภัยกระทำการละเมิดสิทธิ เช่น การสังหาร ข่มขืน และเผาบ้านเรือน
รัฐบาล และกองทัพปฏิเสธข้อกล่าวหาเหล่านั้น โดยระบุว่า พวกเขากำลังดำเนินการ “ปฏิบัติการกวาดล้าง” ในหมู่บ้านต่างๆ ที่เป็นไปตามกฎหมาย ขณะที่ นายเย นาย ผู้อำนวยการของกระทรวงข้อมูลข่าวสาร กล่าวว่า ผู้ก่อความไม่สงบกำลังหลบซ่อนอยู่ในหมู่ชาวบ้าน
กองกำลังรักษาความปลอดภัยได้ค้นพบอาวุธ และกระสุนที่คล้ายกันกับอาวุธที่ถูกขโมยไปโดยกลุ่มผู้โจมตีเมื่อวันที่ 9 ต.ค. สื่อของทางการรายงาน
ความรุนแรงในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นเหตุร้ายแรงที่สุดที่เกิดขึ้นในรัฐยะไข่ นับตั้งแต่การปะทะระหว่างชุมชนที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคนเมื่อปี 2555.