xs
xsm
sm
md
lg

พบซูเปอร์มาร์เกตค้าสัตว์ป่ากลางหมู่บ้านชานกรุงฮานอย เจ้าหน้าที่รัฐทำปิดหูปิดตา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

<br><FONT color=#000033>ภาพที่ได้รับจากคณะสืบสวนของ Wildlife Justice Commission (WJC) เมื่อวันที่ 8 พ.ย. เผยให้เห็นนอแรด 11 กิ่ง ที่ผู้สืบสวนของ WJC ได้รับการเสนอขายผ่านทางแอปพลิเคชั่น WeChat ในหมู่บ้านหงิเก เวียดนาม ซึ่งนักสิ่งแวดล้อมเรียกร้องให้ทางการกรุงฮานอยดำเนินมาตรการอย่างเด็ดขาดในการปราบปรามการค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมายเหล่านี้. -- Agence France-Presse/ Wildlife Justice Commission Investigation.</font></b>

เอเอฟพี - การไต่สวนพิเศษของคณะกรรมการ Wildlife Justice Commission ในกรุงเฮก ระบุว่า หมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งของเวียดนาม ได้กลายเป็น “ซูเปอร์มาร์เกตสำหรับลักลอบค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมาย” ที่ทำเงินหลายล้านดอลลาร์

การไต่สวนแบบเปิดเผยเป็นเวลา 2 วัน ที่กรุงเฮก กำลังเผยข้อค้นพบจากการสืบสวนแบบลับๆ เป็นเวลานาน 1 ปี โดย Wildlife Justice Commission ซึ่งการสอบสวนนั้นยังแสดงให้เห็นถึงหลักฐานที่ชัดเจน และไม่สามารถโต้แย้งได้เกี่ยวกับศูนย์กลางการก่ออาชญากรรมในระดับอุตสาหกรรม ของหมู่บ้านหงิเก (Nhi Ke) ในเวียดนาม โอลิเวีย สวาก-โกลด์แมน ผู้อำนวยการบริหารคณะกรรมการ กล่าว

“มีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน และเด็ดขาด” สวาก-โกลด์แมน กล่าวต่อบรรดาผู้ทีเข้าร่วมรับฟังการไต่สวนราว 200 คน ที่รวมตัวกันที่พระราชวังสันติภาพ หรือศาลโลก ในกรุงเฮก

คณะกรรมาธิการชุดนี้ที่ตั้งขึ้นเมื่อปีก่อน แม้จะไม่มีอำนาจในการตั้งข้อหา แต่หวังให้การไต่สวนครั้งนี้จะช่วยผลักดันให้เวียดนาม และประเทศอื่นๆ ดำเนินการปราบปรามการค้าสัตว์ป่า และคาดว่าในวันนี้ (15) ผู้เชี่ยวชาญ 5 คน รวมทั้งผู้พิพากษาระหว่างประเทศ จะมีข้อแนะนำสำหรับการดำเนินการต่อไป

แต่ดูเหมือนว่ากรุงฮานอย ได้เริ่มดำเนินการปราบปราม ก่อนที่จะมีการจัดการประชุมการลักลอบค้าสัตว์ป่าระหว่างประเทศในช่วงปลายสัปดาห์นี้ โดยเมื่อวันเสาร์ (12) ทางการเวียดนามได้ทำลายงาช้าง และนอแรดร่วม 2 ตัน

มาร์คัส แอสเนอร์ ที่ปรึกษาการลักลอบค้าสัตว์ป่าของประธานาธิบดีบารัค โอบามา กล่าวว่า เป็นการดำเนินการของเวียดนามเป็นขั้นตอนที่ดี แต่ยังจำเป็นที่จะต้องดำเนินการมากขึ้นกว่านี้

หมู่บ้านหงิเก กลายเป็นซูเปอร์มาร์เกตสำหรับสัตว์ป่าผิดกฎหมาย ด้วยจำนวนนอแรด และผลิตภัณฑ์จากช้างเพื่อจำหน่ายอย่างเปิดเผยในปริมาณมหาศาล

คณะกรรมาธิการ ระบุว่า คดีนี้มีผู้เกี่ยวข้อง 51 คน ในการค้าผิดกฎหมายในหมู่บ้านหงิเก จากร้านค้า 16 ร้านที่กระจายอยู่ทั่วหมู่บ้าน ซึ่งรายชื่อนั้นถูกส่งให้แก่ทางการกรุงฮานอยแล้ว

“แต่ความยุติธรรมไม่เกิดขึ้นต่อคดีนี้ แม้จะมีการหารือมานานหลายเดือน และมีหลักฐานรายละเอียดชัดเจน” สวาก-โกลด์แมน กล่าว

ระหว่างการลงพื้นที่ 5 ครั้งในช่วงปี 2558-2559 การปฏิบัติการลับได้พบการลักลอบค้าชิ้นส่วนและผลิตภัณฑ์จากแรด ช้าง และเสือ ที่มีมูลค่ารวมกันถึง 53.1 ล้านดอลลาร์ ในหมู่บ้านหงิเก ที่อยู่ห่างจากกรุงฮานอย ไปทางใต้เพียง 17 กิโลเมตร ซึ่งชิ้นส่วนเหล่านี้มาจากช้างประมาณ 907 ตัว แรด 579 ตัว และเสือ 225 ตัว นอกจากนั้น ยังมีซากสัตว์อื่นๆ ให้จำหน่าย เช่น ตัวนิ่ม หมี เต่ากระ และนกชนหิน

สัตว์เหล่านี้ถูกลักลอบนำเข้ามายังเวียดนาม โดยส่วนใหญ่มีต้นทางมาจากแอฟริกา และมีปลายทางคือ ลูกค้าในจีน เมื่อตกลงกันได้การซื้อขายจะดำเนินการผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย เช่น WeChat ที่จะให้รายละเอียดเกี่ยวกับบัญชีธนาคารเพื่อการชำระเงิน

“สิ่งที่ขาดแคลนมากที่สุดคือ การบังคับใช้ และสิ่งนี้ขึ้นอยู่กับการไร้ซึ่งเจตจำนงทางการเมือง วัฒนธรรมของการยกเว้นโทษ” โมตู โนกูชิ ผู้พิพากษาระหว่างประเทศ กล่าว

วิดีโอลับชุดหนึ่งเผยให้เห็นเจ้าของร้านชั่งน้ำหนักกองงาช้าง และนอแรด และยังมีกำไล สร้อยคอ และรูปแกะสลักอีกหลายร้อยชิ้น

แม้จะมีการปราบปรามเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ แต่ล่ามบอกแก่ทีมสืบสวนว่า จะเป็นการปลอดภัยกว่าที่จะซื้อสินค้าในหมู่บ้านหงิเก เพราะคนที่นั่นมีเส้นสายที่แน่ใจได้ว่าตำรวจจะทำปิดหูปิดตา.
.

.
กำลังโหลดความคิดเห็น