รอยเตอร์ - ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐฯ ได้ประกาศยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ที่มีต่อพม่าอย่างเป็นทางการเมื่อวันศุกร์ (7) ตามที่ให้คำมั่นต่อนางอองซานซูจี เมื่อเดือน ก.ย. ด้วยการยกเลิกคำสั่งฉุกเฉิน อันเนื่องจากนโยบายของอดีตรัฐบาลเผด็จการทหารที่ถือเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ
ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวในหนังสือที่มีถึงสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภาสหรัฐฯ ว่า สถานการณ์ที่ก่อให้เกิดรัฐบัญญัติว่าด้วยภาวะฉุกเฉินแห่งชาติเกี่ยวกับพม่า ได้เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ ด้วยความก้าวหน้าในการส่งเสริมประชาธิปไตย รวมทั้งการเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์ในเดือน พ.ย. 2558
คำแถลงของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุว่า ผลของการยกเลิกคำสั่งฉุกเฉินคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจและการเงินภายใต้การกำกับของสำนักงานควบคุมทรัพย์สินต่างชาติของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ จะไม่มีผลบังคับใช้อีกต่อไป
ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังการพบหารือระหว่างอองซานซูจี ผู้นำพม่า และประธานาธิบดีโอบามา ในกรุงวอชิงตันเมื่อเดือนก่อน ที่ซูจี ได้เรียกร้องให้สหรัฐฯ ยกเลิกการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อประเทศ และโอบามา ระบุว่า เต็มใจที่จะดำเนินการดังกล่าว
หนังสือของโอบามา ชี้ไปที่การก่อตั้งรัฐบาลนำโดยพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยอันเป็นผลของการเลือกตั้ง การปล่อยนักโทษการเมืองจำนวนมาก และสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นพื้นฐานที่ได้รับการปรับปรุง รวมทั้งเสรีภาพในการแสดงออกและเสรีภาพในการสมาคมและชุมนุมอย่างสันติ
“ขณะที่พม่าเผชิญต่อความท้าทายต่างๆ รวมทั้งการส่งเสริมประชาธิปไตยของประเทศให้เข้มแข็ง สหรัฐฯ มีความสามารถ และมุ่งมั่นที่จะใช้วิถีทางต่างๆ ในการสนับสนุนรัฐบาลและประชาชนของพม่าต่อความพยายามของพวกเขาที่จะจัดการต่อความท้าทายเหล่านั้น” โอบามา ระบุ
ซูจี ได้โน้มน้าวตะวันตกให้กำหนดมาตรการคว่ำบาตรต่อพม่าในช่วงที่ซูจีถูกจำคุกหลายปีในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน แต่เวลานี้ ซูจี พยายามที่ปรับสมดุลระหว่างการแสดงให้ประชาชนเห็นถึงสิ่งตอบแทนทางเศรษฐกิจจากการเปลี่ยนแปลงประเทศไปสู่ระบอบประชาธิปไตย ขณะเดียวกัน ก็ต้องการที่จะรักษาแรงกดดันต่อบรรดานายทหารเพื่อให้การปฏิรูปประเทศดำเนินไปต่อเนื่อง
สมาชิกบางคนในสภาคองเกรสสหรัฐฯ ได้แสดงความวิตกเกี่ยวกับขอบเขต และความคงทนของการเปลี่ยนแปลงในพม่า ขณะที่กลุ่มสิทธิมนุษยชนได้ออกประณามถึงการประกาศยกเลิกคว่ำบาตรของโอบามาเมื่อเดือนก่อนว่า สหรัฐฯ สูญเสียอิทธิพลถ่วงดุลกองทัพพม่า แต่เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารของสหรัฐฯ กล่าวว่า การยกเลิกคว่ำบาตรจะไม่นำไปใช้กับความช่วยเหลือทางทหาร
ฝ่ายกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวเมื่อเดือนก่อนว่า ข้อจำกัดจำนวนหนึ่งยังคงมีอยู่เช่นเดิม รวมทั้งการห้ามออกวีซ่าให้แก่ผู้นำทหาร.