เอพี - เจ้าหน้าที่อาวุโสของสหรัฐฯ ระบุว่า กองทัพพม่ายังคงมีความร่วมมือกับเกาหลีเหนือ แม้รัฐบาลพลเรือนชุดใหม่และผู้นำทหารจะปฏิเสธความสัมพันธ์ดังกล่าวก็ตาม
ในช่วงที่พม่าโดดเดี่ยวประเทศเป็นเวลาหลายปี รัฐบาลเผด็จการทหารที่ปกครองประเทศในขณะนั้นได้จัดซื้ออุปกรณ์ป้องกันทางทหารจากเกาหลีเหนือ ซึ่งสหรัฐฯ ได้กดดันพม่าให้ยุติความสัมพันธ์ดังกล่าวด้วยเงื่อนไขการฟื้นความสัมพันธ์สู่ระดับปกติกับวอชิงตัน
แดเนียล รัสเซล ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ได้ย้ำกับนางอองซานซูจี ผู้นำพม่า ระหว่างที่เยือนวอชิงตันถึงความสำคัญของการขจัดความร่วมมือใดๆ ก็ตามที่อาจยังคงมีอยู่
รัสเซลเผยว่า มีความเป็นไปได้ที่ในกองทัพพม่า อาจมีบางคนที่ยังคงมีปฏิสัมพันธ์อยู่กับเกาหลีเหนือมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลเผด็จการทหาร แต่อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าทั้งรัฐบาลและผู้นำทหารต่างแสดงความกังวลถึงเรื่องนี้ และกำลังทำงานเพื่อป้องกันและขจัดความสัมพันธ์ดังกล่าว
คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติมีมติห้ามซื้อขายอาวุธกับเกาหลีเหนือ ที่เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของนานาประเทศที่จะจำกัดแหล่งรายได้สำหรับ โครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ ซึ่งในช่วงการปกครองของรัฐบาลเผด็จการทหาร กองทัพพม่าเป็นลูกค้าสำคัญของเกาหลีเหนือ
ในระหว่างการเยือนทำเนียบขาวของซูจีเมื่อวันที่ 14 ก.ย. โอบามาประกาศว่าสหรัฐฯ มีแผนที่จะยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจที่เหลืออยู่ และคืนสิทธิประโยชน์ทางการค้าให้กับพม่า หลังประเทศเปลี่ยนแปลงไปสู่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย
ด้านสมาชิกวุฒิสภาจากพรรคริพับลิกัน นายคอรี่ การ์ดเนอร์ ร้องเรียนว่าสภาคองเกรสไม่ได้พิจารณาอย่างถ้วนถี่ก่อนตัดสินใจประกาศจะยกเลิกสิ่งที่เรียกว่า "รัฐบัญญัติว่าด้วยภาวะฉุกเฉินแห่งชาติ" เกี่ยวกับพม่า คำสั่งของฝ่ายบริหารที่ใช้กำหนดบทลงโทษ
การ์ดเนอร์ระบุว่า อองซานซูจีที่พบหารือกับสมาชิกสภานิติบัญญัติระหว่างเยือนสหรัฐฯ ได้กล่าวว่าเธอยังคงสนับสนุนมาตรการลงโทษที่มีกับบริษัท Myanmar Corporation และบริษัท Myanmar Economic Holdings Ltd สองธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในประเทศที่ทหารเป็นผู้ดำเนินการ
นักเคลื่อนไหวสิทธิมนุษยชนและผู้ช่วยรัฐสภาบางส่วนแสดงความเห็นว่ายังมี อำนาจทางนิติบัญญัติทางเลือกอื่นๆ ที่สหรัฐฯ อาจใช้เพื่อจำกัดการติดต่อกับบรรดาบริษัทเหล่านั้นแม้หลังจากที่โอบามายกเลิกบัญญัติฉุกเฉินก็ตาม.