เอเอฟพี - เวียดนาม และอิหร่านให้คำมั่นในวันนี้ (6) ว่า จะส่งเสริมการค้าในอนาคตให้มีมูลค่าถึง 2,000 ล้านดอลลาร์ ในความพยายามของกรุงเตหะราน ที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ หลังมาตรการคว่ำบาตรจากนานาประเทศถูกยกเลิกลงในปีนี้
ประธานาธิบดีฮัสซัน โรฮานี ของอิหร่าน อยู่ในระหว่างเยือนเวียดนาม ในการเดินทางเยือน 3 ชาติในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยโรฮานี กล่าวยกย่องความสัมพันธ์กับเวียดนามหลังทั้งสองฝ่ายร่วมลงนามในข้อตกลงจำนวนหนึ่ง
“สองฝ่ายเห็นพ้องกันที่จะเพิ่มมูลค่าการค้าทวิภาคีที่ 2,000 ล้านดอลลาร์” ผู้นำอิหร่านกล่าวต่อผู้สื่อข่าวในกรุงฮานอย
การค้าระหว่างอิหร่าน และเวียดนามมีมูลค่าอยู่ที่ 350 ล้านดอลลาร์ในปีก่อน ตามการรายงานของสำนักข่าว IRNA
“ในแง่มุมทางเศรษฐกิจ โอกาสของความร่วมมือนั้นมีขนาดใหญ่ แต่ขนาดของความร่วมมือและการค้าทวิภาคีในปัจจุบันยังอยู่ในระดับปานกลาง” ประธานาธิบดีเจิ่น ได กวาง ของเวียดนาม กล่าว
จากข้อตกลงนิวเคลียร์ที่บรรลุในเดือน ก.ค.2558 และมีผลบังคับใช้ในเดือน ม.ค. ส่งผลให้อิหร่านได้รับการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรจากนานาชาติ และเป็นการเปิดประตูสู่ตลาดที่ยังไม่ถูกแตะต้องหนึ่งในแห่งสุดท้ายของโลกสำหรับธุรกิจทั่วโลก
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ฮานอย และเตหะราน ที่ต่างเคยมีความสัมพันธ์ตึงเครียดกับสหรัฐฯ ในอดีต มีความกระตือรือร้นที่จะสร้างพันธมิตรนอกเหนือไปจากในภูมิภาค
นักวิจัยด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย กล่าวว่า สำหรับโรฮานี การเยือนครั้งนี้ถือเป็นเครื่องหมายของการหันไปทางตะวันออก หารือ และสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่เข้มแข็งที่อิหร่านต้องการ
ส่วนฝ่ายเวียดนาม อิหร่านได้เสนอความเป็นหุ้นส่วนสำคัญในอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ และสำหรับการแลกเปลี่ยนด้านสุขภาพและเทคโนโลยี และความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดขึ้นกับอิหร่านยังช่วยให้เวียดนามมีพันธมิตรที่มีอิทธิพลในตะวันออกกลาง
เวียดนาม และอิหร่านสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตในปี 2516 ประธานาธิบดีของอิหร่าน 2 คน เคยเดินทางเยือนเวียดนาม คือ ประธานาธิบดีมะห์มูด อาะห์มาดิเนจัด ในปี 2555 และประธานาธิบดีอักบาร์ ฮาเชมี รัฟซันจานี ในปี 2538
หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจเยือนเวียดนาม ประธานาธิบดีโรฮานี จะเดินทางต่อไปยังมาเลเซีย และไทย ก่อนเดินทางกลับประเทศ ตามการรายงานของสื่ออิหร่าน.
.
.