เขินจัง .. เวียดนามตัดใจจัดถุงยางอนามัยเอื้ออาทรขายถูกๆ นักศึกษาใส่ตู้ยอดเหรียญ

MGRออนไลน์ -- ถึงแม้การมีเพศสัมพันธ์ ก่อนเข้าวิวาห์จะเป็นสิ่งต้องห้าม ทางขนบธรรมเนียมและประเพณีก็ตาม แต่หน่วยงานของทางการเวียดนาม ได้ยอมรับความจริงว่า มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นในบรรดาหนุ่มสาววัยเรียนจำนวนมาก และ ถึงเวลาที่ควรสนับสนุนพวกเขาและเธอเหล่านั้น ในการป้องกัน .. ป้องกันโรคทางเพศ ป้องกันตั้งครรภ์ และ ป้องกันปัญหาสังคมที่จะติดตามมาอีกมากมาย

เหวียนวันเติ่น (Nguyen Van Tan) รองผู้อำนวยการใหญ่ กรมใหญ่ประชากรและการวางแผนครอบครับ เปิดเผยเมื่อเร็วๆ นี้ว่า หน่วยงาน จะจำหน่ายถุงยางอนามัย ให้หนุ่มสาวนักศึกษา ในราคาที่รัฐบาลสนับสนุน เพื่อให้ซื้อได้ง่ายขึ้น โดยรุ่นแพงที่สุด มีราคาเพียง 1,000 ด่ง (0.04 ดอลลาร์) เท่านั้น ราคาถูกเหมือนให้เปล่า

ก่อนหน้านี้หน่วยงานวางแผนครอบครัง เคยแจกถุงยางอนามัย ให้แก่นักศึกษามหาวิทยาลัย และวิทยาลัยต่างๆ แต่มีกฎกติกาว่า ผู้รับจะต้องลงชื่อ ทำให้ไม่ประสบความสำเร็จมากนัก จึงตั้งหลักกันใหม่คือ ให้ซื้อในราคาที่ไม่ลำบากยากเย็นอะไร และ ไม่ต้องลงชื่ออีก

นายเติ่นได้ฝากไปถึงยังผู้ปกครองทางบ้านด้วยว่า หากวันใดวันหนึ่ง พบคอนดอมอยู่ในกระเป๋าเสื้อ หรือ กระเป๋ากางเกง กระเป๋ากระโปรง หรือ ในกระเป๋าเรียนของลูกๆ ก็อย่าตกอกใจไป และ ควรจะตั้งหลักกันใหม่ ทำใจเสียใหม่ มองโลกในแง่ที่เปลี่ยนไปด้วย

หน่วยวางแผนครอบครัว มองเรื่องนี้เป็นความจำเป็น และ ยังถือเป็นเรื่องที่ดีมาก ที่เยาวชนตื่นตัว หันมาป้องกันโรคติดต่อร้ายแรงต่างๆ โดยมีเซ็กส์อย่างปลอดภัย

ก่อนหน้านี้ไม่น่าน สื่อออนไลน์หลายสำนักเคยพาดหัวข่าวใหญ่เกี่ยวกับ นักศึกษาหนุ่มสาวคู่หนึ่ง ในจังหวัดทางตอนเหนือของประเทศ ถูกนำส่งโรงพยาบาล โดยมีแผลและโลหิตไหลจากอวัยวะเพศของคนทั้งสอง ก่อนหน้านั้นนักศึกษาคู่นี้มีเซ็กส์กันครั้งแรก โดยสวมพลาสติกป้องกันตั้งครรภ์ ทั้งสองคนกล่าวว่า เขินอายเกินกว่าจะไปหาซื้อถุงยางอนามัย ตามร้านขายยาทั่วไปได้

การสำรวจความคิดเห็นยังพบว่า นักศึกษาในรั้วมหาวิทยาลัยหลายแห่ง ในกรุงฮานอย มีจำนวนไม่น้อยเลยที่ รู้สึก "เขิน" ที่จะไปหาซื้อถุงยางอนามัย คือ มีจำนวนคิดเป็นถึง 25% ของจำนวนทั้งหมด 2,7000 คน ที่ตอบคำถาม

ปัญหาสำคัญที่ทำให้อายก็คือ การซื้อถุงยางอนามัยนั้น เป็นการประจานตัวเองกับคู่ขา ให้เห็นมีเซ็กส์ก่อนเวลาอันควร ซึ่งขัดต่อวัฒนธรรมประเพณี ของชาวเวียดนาม ที่ห้ามเยาวชนมีเรื่องอย่างว่า ก่อนแต่งงาน

การสำรวจความเห็นของประชากรวัยุร่น ที่จัดขึ้นอย่างเป็นทางการในปี 2548 และ 2553 ได้พบว่า ช่วงอายุที่วัยรุ่นหญิงชาย มีเซ็กซ์กันครั้งแรกนั้น เร็วขึ้นอีก 1 ปี คือ โดยเฉลี่ยเมื่ออายุประมาณ 18 แต่ก็เชื่อว่าจริงๆ แล้ว เรื่องอายุสำหรับเซ็กส์ครั้งแรก อาจจะน้อยกว่านั้่นอีก เนื่องจากวัยรุ่นจำนวนมาก อายเกินกว่าจะพูดความจริงเกี่ยวกับตัวเองได้

ผลการสำรวจทั้งสองครั้งยังพบอีกว่า วัยรุ่นเวียดนามมีความรู้เกี่ยวกับเพศสัมพันธ์ และการคุมกำเนิดมากขึ้นกว่าเมื่อ 10-15 ปีก่อน แต่การใช้ถุงพลาสติกในการป้องกัน ก็ยังคงมีอยู่ ทั้งนี้เนื่องจากวิถีความคิดดั้งเดิม กับ การขาดความรู้เฉพาะเกี่ยวกับเพศศึกษานั่นเอง
.

2
แพทย์หญิงคนหนึ่ง ที่ศึกษาเรื่องนี้เปิดเผยว่า เคยมีกรณีหนึ่งที่นักศึกษาหญิงตั้งครรภ์ หลังจากแฟนหนุ่มไม่กล้าไปซื้อถุงยางอนามัย ถึงแม้จะพยายามไปจนถึงร้านขายยาถึง 5 ครั้งก็ตาม ทั้งนี้เนื่องจากเภสัชกรของร้านขายยาใกล้ที่สุดนั้นเป็นหญิงสาว อีกครั้งหนึ่งเขาไปซื้อจากเภสัชกรหญิงที่อายุมากแล้ว แต่ถูกมองด้วยสายตาเชิงสงสัย ราวกับกระทำความผิดซึ่งหน้า จึงทำให้เขาละความตั้งใจ

เว็บไซต์จืถึกแจ๋ (Tri Thuc Tre) หรือ "เยาวชนปัญญาชนเวียดนาม" รายงานการเปิดเผยของ พ.ญ.เล ถิ กิม ซุง (Le Thi Kin Dung) แห่งศูนย์การแพทย์แห่งหนึ่งในกรุงฮานอย ที่ระบุว่าเมื่อสามเดือนที่แล้ว มีนักศึกษาหญิงอายุ 20 ปีคนหนึ่งไปที่นั่น โดยมีเลือดออกทางช่องคลอดไม่หยุด อันเกิดจากการติดเชื้อรุนแรง

สาเหตุของเรื่องนี้ทำให้คุณหมอช็อก..

หญิงสาวนักศึกษากล่าวว่า ก่อนหน้านี้หลังมีจากเซ็กซ์กับแฟนหนุ่ม โดยไม่ได้ป้องกัน เธอใช้สำลีชุบน้ำมะนาวชุ่มๆ สอดเข้าไปในช่องคลอด โดยเชื่อว่าน้ำมะนาวซึ่งมีฤทธิ์เป็นกรด สามารถฆ่าสเปิร์มได้ อันเป็นสาเหตุที่ทำให้ภายในอวัยเพศติดเชื้อ และเกิดการอักเสบรุนแรง

คุณหมอบอกว่า ปัญหาร่วมกันประการหนึ่ง ที่หนุ่มสาวสะท้อนออกมาให้ฟัง ก็คืออายเกินไป และ หลายคนหวาดกลัว ที่จะพูดคุยกับใครๆ อย่างตรงไปตรงมา เกี่ยวกับการใช้ถุงยางอนามัย

ผลก็คือ หลายคู่ตัดสินใจมีเซ็กส์ครั้งแรก โดยไม่มีการป้องกันใดๆ หลังจากนั้นจะปรึกษาาคนรู้จัก เพื่อหา "ยาคุมฉุกเฉิน" มาใช้ ซึ่งหลายคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ยาพวกนั้นคืออะไร และ ใช้อย่างไรจึงจะไม่เป็นอันตราย

นายเหวียนวันเติ่น บอกกับเตื่อยแจ๋ออนไลน์ในขณะเดียวกันว่า หน่วยงานของเขายังมีแผน จะนำถึงยางอนามัยราคาถูก แบบตู้หยอดเหรียญ ไปติดตั้งตามสวนอุตสาหกรรม และ เขตที่มีโรงงานอุตสาหกรรมแปรรูป ในนครโฮจิมินห์ โดยเตรียมทีมงานอีกชุดหนึ่ง เพื่อติดตามดูความเรียบร้อย ไม่ให้มือดีไปงัดแงะอีกด้วย.