รอยเตอร์ - การลงทุนโดยตรงจากต่างชาติในช่วง 4 เดือนแรก ภายใต้การบริหารประเทศโดยรัฐบาลที่นำโดยนางอองซานซูจี ลดลงอย่างมาก เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ตามข้อมูลของทางการ ส่วนหนึ่งเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่ทำให้นักลงทุนรอดูท่าทีอย่างระมัดระวัง
ในช่วงระหว่างเดือน เม.ย.-ก.ค. (4 เดือนแรงของปีงบประมาณของพม่า) บริษัทต่างชาติได้ลงทุนในพม่าแล้วเป็นมูลค่า 380 ล้านดอลลาร์ ลดลงจาก 2,600 ล้านดอลลาร์ ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ตามข้อมูลของสำนักงานการบริหารการลงทุนและบริษัท (DICA)
บรรดานักธุรกิจ และเจ้าหน้าที่ให้เหตุผลว่า เป็นเพราะไม่เต็มใจที่จะลงทุนในช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งใหญ่ที่สุดในรอบมากกว่า 50 ปี ความล่าช้าในการจัดตั้งคณะทำงานในการอนุมัติการลงทุนใหม่ และแผนเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ขาดรายละเอียดบางอย่าง
“ผมคิดว่าการเปลี่ยนแปลงในรัฐบาล และกฎหมายที่เกี่ยวข้องทำให้นักลงทุนต่างชาติที่มีศักยภาพบางรายยังไม่พร้อมจะลงทุน” วิน อ่อง จากสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งสหภาพพม่า กล่าว
“พวกเขาอาจวิตกเกี่ยวกับความเสี่ยงที่เป็นไปได้ที่อาจเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลง พวกเขาจะกลับมาเมื่อสิ่งต่างๆ ได้รับการจัดการแก้ไขแล้ว แต่ผมไม่คิดว่าแค่สถานการณ์ในช่วงไตรมาสแรกนั้นเพียงพอที่จะประเมินสถานการณ์สำหรับทั้งปีงบประมาณได้” วิน อ่อง กล่าว
การลงทุน 380 ล้านดอลลาร์ เกิดขึ้นใน 13 โครงการที่อยู่ในภาคส่วนต่างๆ ตั้งแต่การผลิตไปจนถึงการคมนาคมและโทรคมนาคม กอ วิน ตุน ผู้อำนวยการ DICA กล่าว และเสริมว่า เม็ดเงินลงทุนที่ลดลงอย่างฮวบฮาบเป็นเพราะความล่าช้าในการตั้งคณะกรรมการการลงทุนพม่า (MIC) ที่มีหน้าที่อนุมัติโครงการการลงทุนต่างๆ
อ่อง นาย อู เลขาธิการคณะกรรมการการลงทุน เผยต่อรอยเตอร์เมื่อเดือน มิ.ย.ว่า ตั้งแต่เดือน เม.ย. มีโครงการการลงทุนที่ยื่นเสนอรอการอนุมัติอยู่ประมาณ 102 โครงการ ที่ครึ่งหนึ่งเป็นโครงการการลงทุนจากต่างชาติ มีมูลค่ารวมประมาณ 2,300 ล้านดอลลาร์.