รอยเตอร์ - การยกเลิกการห้ามค้าอาวุธของสหรัฐฯ ต่อเวียดนามเมื่อไม่นานนี้ ได้ส่งเสริมความไว้วางใจระหว่างอดีตศัตรูสงคราม แต่การซื้ออาวุธกลับยังคงห่างไกล ตามการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงของเวียดนาม
เหวียน จิ วีง รัฐมนตรีช่วยกระทรวงกลาโหมเวียดนาม เปิดเผยกับรอยเตอร์ถึงความเป็นไปได้ในการซื้ออาวุธว่าเป็นส่วนหนึ่งของแผนระยะยาวของการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และเวียดนามในด้านต่างๆ ที่ครอบคลุมทั้งด้านเศรษฐกิจ การเมือง วัฒนธรรมและการรักษาความปลอดภัย
"เรายังไม่แน่ใจว่าเราสามารถซื้ออะไรได้จากสหรัฐฯ บ้าง หรือเราต้องการจะซื้ออะไร" วีง กล่าว ที่นับเป็นการแสดงความคิดเห็นในที่สาธารณะเป็นครั้งแรกๆ จากเจ้าหน้าที่กลาโหมเวียดนาม นับตั้งแต่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ยกเลิกการห้ามค้าอาวุธ ในกรุงฮานอยเมื่อเดือนก่อน
"การยกเลิกการห้ามค้าอาวุธไม่ได้มีสำคัญแค่เพียงในแง่ของการค้าเท่านั้น แต่ยังในแง่ของการปรับปรุงความไว้วางใจและความเชื่อมั่นในระดับสูง" เหวียน จิ วีง กล่าว
ความสัมพันธ์ทางทหารที่ค่อยๆ พัฒนาขึ้นระหว่างสหรัฐฯ และเวียดนาม ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดทั่วทั้งภูมิภาค เมื่อฮานอยพยายามที่จะป้องปรามประเทศเพื่อนบ้านยักษ์ใหญ่อย่างจีนที่รุกคืบอ้างกรรมสิทธิในทะเลจีนใต้
ฝ่ายสหรัฐฯ ก็หวังที่จะมีความสัมพันธ์ทางทหารที่ใกล้ชิดขึ้นกับฮานอย ในความพยายามที่จะขยายยุทธศาสตร์ปักหมุดเอเชีย ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการขยายอำนาจของจีนภายในภูมิภาค
เวียดนามเพิ่มการใช้จ่ายทางทหารอย่างรวดเร็วในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โดยพึ่งพารัสเซียในการซื้อเรือดำน้ำ เครื่องบินรบ และระบบจรวดที่ทันสมัย
ผู้ผลิตอาวุธของสหรัฐฯ ก็กระหายที่เข้ามายังตลาดใหม่ในเวียดนาม แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงภูมิภาคเชื่อว่า ฮานอยจะค่อยๆ คลายการพึ่งพารัสเซีย
แม้ค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงของอาวุธสหรัฐฯ จะเป็นอีกปัจจัยหนึ่ง แต่แหล่งข่าวทางทหารเชื่อว่าเวียดนามกระตือรือร้นที่จะปรับปรุงอุปกรณ์การสื่อสารและการตรวจตราเป็นอย่างแรก เพื่อช่วยให้การจับตาดูจีนนั้นดียิ่งขึ้น ที่อาจรวมถึงเครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล
ด้านเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ระบุว่า เวียดนามยังไม่ได้เริ่มหารือรายละเอียดกับวอชิงตันเกี่ยวกับความต้องการและช่องว่างในขีดความสามารถของประเทศ
ในการพูดคุยนอกรอบการประชุมสุดยอดความมั่นคงเอเชียในสิงคโปร์ แม้เหวียน จิ วีง จะไม่ได้เปิดเผยถึงรายละเอียดในแผนแรกของเวียดนามเกี่ยวกับการจัดซื้ออาวุธสหรัฐฯ แต่กล่าวย้ำว่า การปรับปรุงทางทหารของเวียดนามนั้นมีวัตถุประสงค์เพื่อการป้องกัน.