คนเวียดนามเป็นโรคเบาหวานมากกว่า 4 ล้านคน

แถ่งเนียน - การบริโภคอาหารฟาสต์ฟูด และน้ำอัดลมโดยไม่มีการจำกัดกำลังเป็นสาเหตุให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานในเวียดนามพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วจนถึงในระดับที่เป็นอันตราย ขณะเดียวกัน มีเด็กจำนวนมากขึ้นที่ป่วยด้วยโรคเบาหวาน ตามรายงานใหม่ของกระทรวงสาธารณสุขเวียดนาม

เหวียน แถ่ง ลอง รัฐมนตรีช่วยกระทรวงสาธารณสุขเวียดนาม เผยว่า ผู้ป่วยเบาหวานในเวียดนามในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นถึง 2 เท่าตัว จนขณะนี้มีจำนวนผู้ป่วยเบาหวานมากถึง 5.4% ของประชากรทั้งหมด หรือมากกว่า 4 ล้านคน

จากตัวเลขของกระทรวงสาธารณสุข แสดงให้เห็นว่า เวียดนามจัดอยู่ใน 10 ประเทศ ของเอเชียที่มีอัตราผู้ป่วยเบาหวานสูงที่สุด

ผู้ป่วยเบาหวานพบได้มากในพื้นที่ชนบทมากกว่าในเขตตัวเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแถบลุ่มน้ำโขงของเวียดนาม มีประชากรป่วยเป็นเบาหวานมากที่สุด ตามมาด้วยพื้นที่ภาคกลาง พื้นที่ราบลุ่มปากแม่น้ำแดง ที่รวมทั้งกรุงฮานอย และพื้นที่ภาคตะวันออก รวมทั้งนครโฮจิมินห์

ฟาน เฮือง เซือง รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลในกรุงฮานอย ระบุว่า ปัจจุบันคนอายุน้อยป่วยเป็นโรคเบาหวานกันมากขึ้น จากก่อนหน้านี้ คนมักเริ่มป่วยเป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ขณะอายุประมาณ 40 ปี แต่ปัจจุบันพบผู้ป่วยเบาหวานในกรุงฮานอย ตั้งแต่อายุเพียง 10 ปี

บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุข เผยว่า สาเหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะพฤติกรรมการบริโภคที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ที่รวมถึงการรับประทานน้ำตาลปริมาณมาก แลบะการบริโภคอาหารฟาสต์ฟูด และดื่มน้ำอัดลม

จากการสำรวจของสถาบันโภชนาการแห่งชาติปี 2558 พบว่า คนเวียดนามบริโภคแป้ง และน้ำตาลมากเกินขนาด โดยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ปริมาณแป้งที่คนเวียดนามบริโภคต่อวันเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า เฉลี่ยคนละ 33 กรัมต่อคนต่อวัน ขณะที่รับประทานผักโดยเฉลี่ยเพียง 200 กรัมต่อวัน ซึ่งน้อยกว่าปริมาณผักที่องค์การอนามัยโลกแนะนำถึงครึ่งหนึ่ง

นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขยังกล่าวโทษบรรดาผู้ปกครองที่ปล่อยให้ลูกหลานดื่มเครื่องดื่มรสหวาน และนมรสหวานมากจนเกินไป ทั้งนี้ น้ำอัดลม 1 กระป๋อง มีน้ำตาลถึง 36-63 กรัม และในช่วง 25 ปีที่ผ่านมา การรับประทานอาหารที่มีไขมันของคนเวียดนามในแต่ละวันก็เพิ่มขึ้นมากกว่า 3 เท่า มีสถิติระบุว่า ในปี 2553 คนเวียดนามบริโภคอาหารที่มีไขมันโดยเฉลี่ยมากถึง 38 กรัมต่อคนต่อวัน นอกจากนั้น การขาดการออกกำลังกายก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้คนเป็นเบาหวานกันมากขึ้น.