รอยเตอร์ - รัฐสภากัมพูชา ผ่านร่างกฎหมายสหภาพแรงงานวานนี้ (4) โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขตามข้อเรียกร้องของกลุ่มแรงงาน และพรรคฝ่ายค้าน ที่โจมตีว่า กฎหมายนี้เข้มงวดเกินไป และร่างขึ้นเพื่อจำกัดสิทธิของแรงงาน
กฎหมายที่เป็นประเด็นร้อนในกัมพูชา ที่ภาคการผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูป และรองเท้ามูลค่า 5,000 ล้านดอลลาร์ เป็นส่วนขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และแหล่งจ้างงานใหญ่ที่สุดของประเทศ ผลิตสินค้าให้แก่ Nike, H&M, Puma, Marks and Spencer และ Inditex ที่เป็นแบรนด์สินค้าระดับโลก
ส่วนหนึ่งของผู้ชุมนุมประท้วงราว 100 คน ปะทะกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยนอกอาคารรัฐสภา ก่อนร่างกฎหมายจะผ่านการรับรอง และมีนักเคลื่อนไหวสหภาพแรงงานอย่างน้อย 2 คนได้รับบาดเจ็บ
ผู้แทนทั้ง 67 คน จากพรรคประชาชนกัมพูชา (CPP) สนับสนุนร่างกฎหมายดังกล่าว ขณะที่ผู้แทน 31 คน ของพรรคกู้ชาติกัมพูชา (CNRP) โหวตค้านร่างกฎหมายนี้
“เรากังวลว่ากฎหมายจะกระทบสิทธิในการชุมนุมของเรา รัฐบาลจะเข้าแทรกแซงการทำงานของเรา พวกเขาสามารถระงับ และยกเลิกสหภาพของเราได้” อัธ ธน ประธานกลุ่มพันธมิตรสหภาพแรงงานประชาธิปไตยคนงานเครื่องแต่งกายกัมพูชา (Coalition of Cambodian Apparel Workers Democratic Union) กล่าว
กฎหมายกำหนดกฎระเบียบเกี่ยวกับการจัดตั้ง การดำเนินงาน และการยกเลิกสหภาพ และเป็นการรับรองในร่างกฎหมายเดิมที่ไม่มีการปรับเปลี่ยนตามที่สหภาพ นายจ้าง และกลุ่มสิทธิมนุษยชนร้องขอ
เจ้าของกิจการได้ร้องขอกฎหมายในปี 2550 ให้ป้องกันการผละงานประท้วงของสหภาพที่เป็นตัวแทนแรงงานราว 700,000 คน ในอุตสาหกรรมที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ส่วนหนึ่งเพราะกัมพูชามีค่าแรงถูกกว่าโรงงานจีน
ความไม่สงบยังมีปรากฏอยู่ในกัมพูชา เกี่ยวกับการชุมนุมประท้วงค่าแรงที่เป็นปัญหายาวนานสำหรับรัฐบาล และประเด็นปัญหาสำหรับแบรนด์สินค้าที่กังวลเกี่ยวกับการหยุดชะงักในการผลิต รวมทั้งชื่อเสียงในทางลบ
สหภาพแรงงาน และพรรค CNRP ได้เรียกร้องให้รัฐสภาถอนมาตราทั้งหมดในกฎหมายที่เกี่ยวกับการระงับสหภาพแรงงาน และความต้องการเกี่ยวกับรายงานทางการเงินของสหภาพ
อัธ ธน กล่าวว่า แกนนำสหภาพแรงงานจะผลักดันการแก้ไขแต่จะไม่จัดการชุมนุมประท้วงใหญ่ เนื่องจากวิตกว่า จะเกิดเหตุความรุนแรง และการปราบปรามของเจ้าหน้าที่ซ้ำอีก
อิธ สัม เฮง รัฐมนตรีกระทรวงแรงงาน กล่าวต่อรัฐสภาว่า กฎหมายจะนำความมั่นคง และการลงทุนที่มากยิ่งขึ้นมาสู่ประเทศ ส่วนสมาชิกสภานิติบัญญัติของพรรครัฐบาล กล่าวป้องร่างกฎหมายว่า ท้ายที่สุดร่างกฎหมายนี้จะเป็นประโยชน์ต่อคนงาน
“ภาคส่วนนี้เป็นดังอู่ข้าวอู่น้ำสำหรับเราทุกคน รัฐบาลมีหน้าที่ที่จะปกป้องอู่ข้าวนี้เพื่อให้พวกเราทุกคนมีข้าวกิน” สมาชิกสภานิติบัญญัติของพรรครัฐบาลกล่าว.
.
.
.