เอเอฟพี/รอยเตอร์ - ผู้ช่วยใกล้ชิดของอองซานซูจี เข้ากล่าวสาบานตนในฐานะประธานาธิบดีของพม่า และเป็นประธานาธิบดีคนแรกที่ไม่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องต่อทหารในรอบมากกว่าครึ่งศตวรรษ ในวันนี้ (30) บทบาทที่จะได้เห็นเขาทำหน้าที่เป็นตัวแทนของผู้นำเรียกร้องประชาธิปไตย และแบกความหวังของชาติที่เพิ่งหลุดพ้นจากการปกครองของทหาร
ถิ่น จอ เพื่อนสนิท และผู้ที่นางอองซานซูจี ไว้วางใจ ได้เข้าครองอำนาจต่อจากเต็งเส่ง อดีตนายพล ที่ดำเนินการปฏิรูปประเทศนับตั้งแต่ปี 2554
การมอบอำนาจที่อาคารรัฐสภาในกรุงเนปีดอ เป็นสัญลักษณ์ของขั้นตอนสุดท้ายของการเปลี่ยนผ่านอำนาจที่กินเวลายาวนานนับตั้งแต่พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยของซูจี กวาดชัยชนะในการเลือกตั้งเมื่อเดือน พ.ย.
พรรค NLD ครองเสียงข้างมากด้วยได้ที่นั่งในสภาถึง 80% และมีสิทธิในการปกครอง หลังอยู่ภายใต้การครอบครองของกองทัพมานาน ความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพ และซูจี จะเป็นตัวกำหนดความสำเร็จของการแยกตัวออกจากการปกครองของทหารนับตั้งแต่กองทัพยึดอำนาจในปี 2505
ในพิธี ถิ่น จอ และรองประธานาธิบดีใหม่ 2 คน ได้ถือรัฐธรรมนูญไว้ในมือ และกล่าวสาบานตนพร้อมกันตามประธานรัฐสภา มาน วิน คาย ตาน (Mahn Win Khaing Than) ว่าจะจงรักภักดีต่อสหภาพพม่า และจะไม่แบ่งแยกความเป็นสหภาพ ความสามัคคีของชาติ และการธํารงรักษาไว้ซึ่งอํานาจอธิปไตยเป็นสิ่งสำคัญ
ถิ่น จอ ยังได้กล่าวให้คำมั่นว่า จะซื่อสัตย์ต่อประชาชนของสาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า
“ผมจะพิทักษ์รักษา และปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย จะปฏิบัติหน้าที่ที่รับผิดชอบให้สำเร็จลุล่วงอย่างเที่ยงธรรม และสุดความสามารถ” ถิ่น จอ อายุ 69 ปี เพื่อนร่วมชั้นเรียนของอองซานซูจี กล่าว
และในการกล่าวสุนทรพจน์สั้นๆ ต่อรัฐสภา หลังพิธีกล่าวสาบานตน ถิ่น จอ ยังย้ำจุดยืนของซูจีต่อความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญฉบับปี 2551 ที่ปกป้องอำนาจของกองทัพในการเมืองของประเทศ ที่ทำให้สมาชิก NLD บางส่วนมีน้ำตาคลอ
“รัฐบาลใหม่ของเราจะดำเนินการสร้างความปรองดองในชาติ ความสงบสุขในประเทศ การเกิดขึ้นของรัฐธรรมนูญที่จะปูทางไปสู่สหภาพประชาธิปไตย และปรับปรุงมาตรฐานความเป็นอยู่ของประชาชน เรามีหน้าที่ที่จะต้องทำงานเพื่อการเกิดขึ้นของรัฐธรรมนูญที่เหมาะสมต่อประเทศของเรา และสอดคล้องต่อมาตรฐานทางประชาธิปไตย” ถิ่น จอ กล่าว
หลังจากนั้น คณะรัฐมนตรีได้กล่าวสาบานตนตามประธานรัฐสภา ที่รวมทั้งรัฐมนตรีจากเขตชาติพันธุ์ และซูจี ที่อยู่ในชุดสีฟ้าซึ่งครองตำแหน่งรัฐมนตรีหลายกระทรวง รวมทั้งกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมทั้งทหารในชุดเครื่องแบบอีก 3 นาย ซึ่งเป็นสัดส่วนที่กองทัพครอบครองอยู่ภายในรัฐบาลชุดใหม่
พล.อ.อาวุโส มิน ออง หล่าย ได้เข้าร่วมในพิธีเช่นกัน รวมทั้งนักการทูต และผู้แทนหน่วยงานนอกภาครัฐอีกหลายร้อยคน และจะมีการจัดงานที่ทำเนียบประธานาธิบดี และงานเลี้ยงอาหารค่ำอย่างเป็นทางการเพื่อเฉลิมฉลองโอกาสนี้
สมาชิกสภาของพรรค NLD หลายคนรู้สึกตื้นตันต่อสิ่งที่เกิดขึ้น
“ผมนอนไม่หลับทั้งคืน สุนทรพจน์ของประธานาธิบดีถิ่น จอ เป็นสิ่งที่เราไม่เคยได้ยินมาก่อนในประเทศนี้ เขาให้คำมั่นว่า เขาจะทำงานเพื่อชาติด้วยความเคารพต่ออองซานซูจีหัวหน้าพรรคของเรา มันเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ และสิ่งนี้ได้เกิดขึ้นได้เพราะทุกคนร่วมกันผลักดันไปข้างหน้า” สมาชิกสภาพรรค NLD กล่าวหลังพิธี.
.
.
.
.
.
.
.