เอเอฟพี - ชาวพม่าหลายพันชีวิตในพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศต้องหลบหนีออกจากที่อยู่อาศัยของตัวเอง หลังการต่อสู้ระหว่างกบฏชนกลุ่มน้อยชาติพันธุ์ และกองทัพทวีความรุนแรงขึ้น ตามการเปิดเผยของผู้เห็นเหตุการณ์ในวันนี้ (13)
การต่อสู้ที่ปะทุขึ้นอีกรอบเมื่อไม่นานนี้ในรัฐชานของพม่า เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่รัฐบาลที่ทหารให้การสนับสนุนกำลังจะส่งต่ออำนาจให้แก่รัฐบาลพลเรือนที่นำโดยพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) ของอองซานซูจี
รัฐชาน เขตแดนกว้างใหญ่ และเต็มไปด้วยภูเขาทางฝั่งตะวันออกของพม่า มักเกิดเหตุความไม่สงบอันเนื่องจากการต่อสู้เรียกร้องการปกครองตนเองของชนกลุ่มน้อยชาติพันธุ์ที่ดำเนินมายาวนานหลายทศวรรษ
การต่อสู้ครั้งล่าสุดเกิดขึ้นระหว่างกองทัพทหารพม่า และกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติตะอาง (TNLA)
“การต่อสู้เกิดขึ้นราว 4 ครั้งต่อวัน มีคนอาศัยอยู่ที่ค่ายลี้ภัยราว 8,000 คน” มาย เมียว อ่อง จากกลุ่มนักศึกษาตะอางในท้องถิ่นที่ช่วยเหลือผู้หลบภัย กล่าว
TNLA เป็นหนึ่งในกลุ่มกบฏที่ยังไม่ได้ลงนามในข้อตกลงหยุดยิงที่กองทัพกำลังผลักดันอยู่ แต่ซูจีได้กล่าวว่า จะนำความสงบสุขมาสู่พื้นที่ชายแดนของประเทศ ที่กบฏชนกลุ่มน้อยชาติพันธุ์หลากหลายกลุ่มต่อสู้มายาวนานต่อการปกครองของรัฐบาลกลาง
ผู้เห็นเหตุการณ์รายหนึ่งอธิบายถึงวิธีที่พวกเขาหลบหนีกองทัพพม่าขณะเกิดการต่อสู้
“เราหนีออกมาเมื่อกองทัพพม่าเข้ามาที่หมู่บ้านของเรา และเริ่มยิงด้วยอาวุธหนัก บางคนหนีเข้าไปในป่าที่อยู่ใกล้ๆ พวกเขายังอยู่ที่นั่น” อา หล่า อายุ 35 ปี จากหมู่บ้านโมนลา เล่าผ่านโทรศัพท์จากวัดที่กลายเป็นที่อยู่อาศัยของผู้ลี้ภัยราว 150 คน
อา หล่า ระบุว่า พวกผู้ชายจะกลัวกันมากว่า จะถูกบีบให้ทำหน้าที่เป็นลูกหาบ หรือคนนำทางให้แก่กองทัพ
ด้านโฆษกจากฝั่ง TNLA ยืนยันว่า การต่อสู้ปะทุบ่อยขึ้นในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากกองทัพพม่าใช้ทั้งเครื่องบินรบ และเฮลิคอปเตอร์
“เดือนนี้เราปะทะกับกองทัพพม่าแล้วประมาณ 25 ครั้ง การต่อสู้ในเดือนนี้ถือว่ารุนแรงที่สุดในรอบหลายปี สถานการณ์ตึงเครียดมาก” พ.ต. มาย อิก จ่อ กล่าว