MGRออนไลน์ -- สนามบินเตินเซินเญิ๊ต (Tan Son Nhat) นครโฮจิมินห์ถึงขั้นวิกฤตสัปดาห์นี้ ผู้คนนับแสนมุ่งไปเพื่อจับเครื่องบินกลับภูมิลำเนา และ ชาวเวียดนามที่อาศัยในโพ้นทะเลเดินทางกลับบ้านเกิด ทำให้อาคารผู้โดยสารแออัดแน่นขนัด ไม่ต่างกับบนรันเวย์ ที่มีการเพิ่มเที่ยวบินอีกนับพันเที่ยว ทุกอย่างนำไปสู่จุดพีควันพุธ 3 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งมีเที่ยวบินเสียเวลาทั้งขึ้นและลงไม่ต่ำกว่า 77 เที่ยว
วันพุธเป็นวันแรกที่ชาวเวียดนามส่วนใหญ่ ออกเดินทางทั้งทางบก ทางเรือ ทางอากาศ กลับภูมิลำเนาไปฉลองเทศกาลตรุษ ร่วมกับครอบครัวซึ่งจะเริ่มวันศุกร์นี้ ภายในอาคารผู้โดยสารเต็มไปด้วยผู้คน ภายนอกที่ด้านหน้ายังมีประชาชนอีกหลายพัน ไปรอรับหรือไปส่งญาติมิตรเดินทาง สถานการณ์ในวันพฤหัสบดีนี้ก็ไม่ได้ต่างกัน สื่อของทางการรายงานอ้างผู้บริหารท่าอากาศยาน
รันเวย์ทั้งสองของสนามบินพาณิชย์ใหญ่ที่สุดในเวียดนามแห่งนี้ มีเครื่องบินขึ้นลงติดต่อกันทั้งวันไม่ขาดระยะ ทำให้เกิดความคับคั่งติดขัด ยังไม่ทราบจำนวนเที่ยวบินล่าสุดในวันพฤหัสบดี แต่สถิติเมื่อวันพุธบ่งบอกว่า มีอย่างน้อย 33 เที่ยวที่ลงจอดช้ากว่ากำหนดเวลา ตั้งแต่ 15-50 นาที อีก 44 ไฟลต์ขึ้นบินช้ากว่ากำหนดตั้งแต่ 15 นาทีถึง 1 ชั่วโมง เชื่อกันว่าสถานการณ์นี้จะดำเนินต่อไป จนพ้นสุดสัปดาห์ที่จะถึง
ตามสถิติเมื่อวันพุธ จำนวนเที่ยวบินเพิ่มขึ้น 17.8% หรือ 686 เที่ยวบิน เทียบกับช่วงเทศกาลเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว ขณะที่จำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นคิดเป็น 19% หนังสือพิมพ์แถ่งเนียนรายงานในเว็บไซต์ภาษาเวียดนาม
ผู้บริหารเวียดนามแอร์ไลน์ส เวียดเจ็ตแอร์ และ เจ็ตสตาร์แปซิฟิกแอร์ไลน์ส ต่างกล่าวว่าการเพิ่มเที่ยวบินนั่นเองที่ทำให้เกิดปัญหา ขณะที่เวียดเจ็ตแอร์ซึ่งเป็นสายการบินแบบจำหน่ายตัวราคาถูกเพียงแห่งเดียว ได้เพิ่มเที่ยวบินถึง 800 เที่ยวในสัปดาห์นี้ ไม่ว่าจะประสานงานกับการท่าอากาศยานดีขนาดไหน ก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงความชุลมุนได้
ตั้งแต่วันที่ 3-7 ก.พ. ทางการจัดอาสาสมัคร 240 คน ประจำตามจุดต่างๆ ภายใน และ นอกอาคารผู้โดยสาร เพื่อช่วยเหลือให้คำแนะนำผู้ไปใช้บริการ ช่วยเหลือเด็กและผู้สูงอายุ ไปให้ทันเที่ยวบิน หรือ ออกจากอาคารได้เร็วขึ้น เพื่อระบายความแออัด อาสาสมัครเกือบทั้งหมดเป็นนักศึกษาสถาบันการบินเวียดนาม กับเจ้าหน้าที่บริการภาคพื้นดินอีกจำนวนหนึ่ง แถ่งเนียนกล่าว
คาดกันว่าท่าอากาศยานนครโฮจิมินห์ กำลังจะเผชิญปัญหานี้อีกครั้งหนึ่งในวันที่ 12 ก.พ. เมื่อประชาชนเริ่มเดินทางกลับจากไปฉลองเทศกาลขึ้นปีใหม่ประเพณี
.
2
ในช่วงไม่กี่วันมานี้ มีผู้ไปใช้บริการทีท่าอากาศยานโฮจิมินห์เฉลี่ยวันละ 105,000 คน รวมทั้งชาวเวียดนามจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก ที่กลับไปร่วมกับครอบครังวฉลองเทศกาลปีใหม่ที่บ้านเกิดอีกราว 10,000 คน และ เชื่อว่าจะมากกว่านี้ในสุดสัปดาห์ที่จะถึง
สนามบินแห่งนี้ออกแบบมาเพื่อรองรับผู้โดยสารเพียง 13 ล้านคนต่อปี สำหรับผู้โดยสารในประเทศ กับอีก 10 ล้านคนที่เป็นผู้โดยสารต่างประเทศ แต่ปี 2558 ที่เพิ่งจะผ่านมา จำนวนได้เพิ่มขึ้นเป็น 26.5 ล้านคน
เมื่อกว่า 40 ปีที่แล้ว สนามบินเตินเซินเญิ๊ตอยู่ห่างจากใจกลางนครไซ่ง่อนเพียง 8 กิโลเมตร หลายสิบปีมานี้ตัวเมืองได้ขยายออกไปห้อมล้อมเอาไว้ทุกด้าน ทำให้การขยายท่าอากาศยานไม่สามารถทำได้ รวมทั้งยังถูกสนามบินของกองทัพอากาศขนาบอยู่อีกด้านหนึ่ง
ทางการเวียดนามได้ตัดสินใจก่อสร้างสนามบินขนาดใหญ่แห่งใหม่ รองรับผู้โดยสารได้ปีละ 45 ล้านคน มูลค่าก่อสรางราว 8,000 ล้านดอลลาร์ อยู่ห่างจากที่นี่ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือราว 32 กม. ในท้องที่ อ.ลองแถ่ง (Long Thanh) จ.โด่งนาย (Dong Nai)
โครงการสนามบินลองใหญ่ล่าช้ามานานกว่า 10 ปี ถูกคัดค้านจากบรรดาผู้แทนราษฎรในรัฐสภามาหลายสมัย โดยวิตกว่าจะทำให้หนี้สินของประเทศเพิ่มขึ้นมหาศาล แต่พรรคคอมมิวนิสต์กับรัฐบาลมีมติให้เดินหน้าโครงการต่อไป ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนเวนคืนที่ดิน และ ก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคต่างๆ รองรับ.
