ASTVผู้จัดการออนไลน์ - เจ้าหน้าที่ทางการลาวได้ออกเตือนเยาวชนของชาติ อย่าหลงใหลกับวันวาเลนไทน์ และอย่าใช้โอกาสนี้ในทางผิดๆ ที่ขัดต่อขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของประเทศ พร้อมชี้ให้เห็นว่า วาเลนไทน์มิใช่วัฒนธรรมแห่งชาติ หากเป็นค่านิยมของตะวันตก ที่ผ่านมา เยาวชนจำนวนหนึ่งเข้าใจเรื่องนี้ผิดๆ จนกระทั่ง “เสียธาตุคน” และชนชาติลาวมีเทศกาลขึ้นปีใหม่ประเพณีอยู่แล้วสำหรับเนื้อหานี้
นายสีแพง วงปันยา อธิบดีกรมวัฒนธรรมมหาชน กระทรวงแถลงข่าว วัฒนธรรมและการท่องเที่ยว ได้ออกเตือนเรื่องนี้เนื่องในโอกาสสิ่งที่โลกตะวันตกเรียกว่า “เทศกาลแห่งความรัก” วันที่ 14 ก.พ. ได้เวียนมาบรรจบอีกครั้ง ทั้งเตือนให้พ่อแม่ผู้ปกครองพร่ำสอนอบรมลูกหลาน ให้เข้าใจและตระหนักเรื่องนี้เพื่อประพฤติปฏิบัติให้ถูกต้อง
“ความจริงแล้ววันแห่งความรักมิใช่ฮีตคองประเพณีของลาวเรา แต่เป็นวัฒนธรรมที่ตะวันตกตั้งขึ้นมา ดังนั้น จึงไม่ควรจะไปแห่แหนตามวันดังกล่าว และประเทศของเราก็ไม่ได้รับรองเอาวันวาเลนไทน์เป็นวันแห่งความรัก..” สื่อของทางรายงานอ้างอธิบดีกรมวัฒนธรรมมหาชน
“แต่ที่ผ่านมาได้มีคนลาวจำนวนหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเยาวชนหนุ่มสาวที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ยังพากันแห่แหนกับวันนี้อย่างเอิกเกริก ซึ่งไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องเกี่ยวข้องกับฮึตคองประเพณีของลาวเรา ยั่วยวนให้เยาวชนหันเหไปเป็นวันแห่งความรักระหว่างหนุ่มสาวที่ไม่เหมะสม ด้วยการมอบดอกไม้ และสิ่งของต่างๆ ให้กัน จัดงานสังสรรค์ดื่มสิ่งมึนเมา”
ร้ายแรงยิ่งกว่านี้ก็คือ วัยรุ่น และคนหนุ่มสาวจำนวนหนึ่งได้กระทำในสิ่งที่ผิดต่อฮีตคองประเพณี “บางคนได้กลับกลายเสียคน เสียธาตุขาดคุณ” ก็เนื่องจากวันวาเลนไทน์ หนังสือพิมพ์ลาวพัดทะนา สื่อออนไลน์ของสมาคมนักข่าวแห่งชาติรายงานอ้าง นายสีแพง ที่แถลงเรื่องนี้วันพฤหัสดี 12 ก.พ.ที่ผ่านมา
แต่เจ้าหน้าที่ผู้นี้ก็กล่าวว่า การแสดงความรักนั้นเป็นเรื่องที่ดี ถ้าหากปฏิบัติในทางที่เหมาะสม และเป็นการแสดงความรักไม่เฉพาะแต่คนหนุ่มคนสาว ยังรวมถึงความรักในบิดามารดา ในญาติพี่น้อง รักเพื่อนรักหมู่คณะ และรักตัวเองด้วย
แท้จริงลาวได้ถือเอาเทศกาลสงกรานต์ หรือวันขึ้นปีใหม่ประเพณีเป็นเทศกาลแห่งความรักอยู่แล้ว เป็นวันแห่งการแสดงสัมมาคารวะ ขอพร และอวยชัยให้พรที่ปฏิบัติสืบกันมาแต่โบราณกาล เพียงแต่บางคนได้หลงลืมฮีตคองประเพณีอันดีงามของชาติไป
“เราไม่ได้ปฏิเสธการฉลองวันวาเลนไทน์ แต่ควรคำนึงถึงการแสดงความรักในทางที่ไม่ดี ไม่ควรถือวันดังกล่าวเป็นวันแห่งความรักระหว่างหนุ่มสาวเพียงอย่างเดียว” อธิบดีกรมวัฒนธรรมมหาชนกล่าว
นายสีแพง ยังฝากไปถึงทุกคนในสังคมให้เอาใจใส่อบรมลูกหลานของตน อธิบายให้เข้าใจถึงคุณค่าแห่งความรัก และขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของชาติ เพื่อให้เป็นคนดีของสังคม ให้ปฏิบัติตามค่านิยมที่ดีงามที่ปฏิบัติสืบต่อกันมาแต่ครั้งปู่ย่าตายาย รู้จักรักตนเอง รักในวัฒนธรรม รักบิดามารดาที่เป็นผู้เลี้ยงดูมาให้เติบโต ใช้ความรักไปในทางที่ถูกต้อง ไม่นำเอา “วันแห่งความรัก” ไปเป็น “วันเห็นแก่ตนเอง” เท่านั้น
คอมมิวนิสต์ลาวยังไม่เปิดกว้างสำหรับการแสดงออกในเรื่องความรักความสัมพันธ์ระหว่างคนหนุ่มคนสาว และยังคงพยายามสกัดกั้นการไหลบ่าของวัฒนธรรมต่างแดน ที่้ทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า “ปรากฏการณ์ย่อท้อ” ในสังคมปัจจุบัน ซึ่งรวมทั้งปัญหาอาชญากรรม ปัญหายาเสพติด และการค้าประเวณีด้วย.