เอพี - ศาลกัมพูชา ที่สหประชาชาติให้การสนับสนุนที่กำลังพิจารณาคดีต่อสมาชิกของอดีตการปกครองเขมรแดง จากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และการก่ออาชญากรรมอื่นๆ กล่าวว่า ศาลได้ตั้งข้อหาอย่างเป็นทางการต่อ เมียส มุธ อดีตผู้บัญชาการทหารเรือของเขมรแดง ในวันจันทร์ (14)
นายกรัฐมนตรีฮุนเซน ได้คัดค้านการขยายวงการพิจารณาคดี และเจ้าหน้าที่ตำรวจกัมพูชาก็ปฏิเสธที่จะจับกุมตัวเมียส มุธ
ศาลระบุว่า เมียส มุธ สมัครใจที่จะเข้ารับฟังข้อหาการกระทำที่เป็นความคืบหน้าในกระบวนการนำตัวนายทหารระดับกลางของเขมรแดงมาขึ้นศาล กลุ่มคอมมิวนิสต์สุดโต่งซึ่งถูกมองว่าเป็นผู้รับผิดชอบต่อการเสียชีวิตของชาวกัมพูชากว่า 1.7 ล้านคน ขณะครองอำนาจในช่วงปี 2518-2522 จากความอดอยาก การสังหาร และการรักษาพยาบาลที่ไม่เพียงพอ ในความพยายามของเขมรแดงที่จะกวาดต้อนประชากรทั้งหมดไปสู่ชุมชนชนบท
ศาลดำเนินการภายใต้ระบบผู้พิพากษา อัยการ และทนายความคู่กันระหว่างชาวกัมพูชา และชาวต่างชาติ ในการพิจารณาคดีก่อนหน้านี้ ศาลพบว่า จำเลย 3 คน มีความผิดแต่เจ้าหน้าที่กัมพูชาไม่ให้ความร่วมมือในการดำเนินการฟ้องร้องต่อผู้ต้องสงสัยรายใหม่
ข้อหาที่ตั้งขึ้นต่อ เมียส มุธ ประกอบด้วย การฆาตกรรม การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ การก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ และความผิดอื่นๆ เมียส มุธ เป็นเป้าหมายเพียงผู้เดียวในคดีที่ 003 ส่วนจำเลยอีก 3 คน คือ อาวอัน อิมเจียม และยิม ทิธ ถูกตั้งข้อหาในคดีที่ 004
อย่างไรก็ตาม ในคดีทั้งหมดนั้นอัยการชาวต่างชาติได้ออกคำฟ้อง แต่อัยการชาวกัมพูชาปฏิเสธที่จะตกลงเห็นชอบ ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปกติจะส่งหมายเรียกตัว และหมายจับก็ไม่ดำเนินการตามแต่อย่างใด ผลคือ ทำให้คดีนี้ต้องหยุดชะงัก แม้เมียส มุธ จะสมัครใจเข้ารับฟังข้อหาที่ศาลก็ตาม
เมื่อปีก่อน ศาลได้ตัดสินโทษจำคุกตลอดชีวิตต่อ เคียว สมพร อดีตประธานแห่งรัฐ และนวน เจีย มือขวาของพลพต หัวหน้ากลุ่มเขมรแดง หลังพบว่ามีความผิดจากการก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ และการพิจารณาคดีต่อข้อหาเพิ่มเติมของพวกเขา ที่ยังรวมถึงการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ กำลังดำเนินอยู่ในตอนนี้
ฮุนเซน ได้กล่าวย้ำว่า หากศาลมุ่งเป้าไปที่การขยายวงดำเนินคดีต่อจำเลยมากขึ้น อาจเป็นการกระตุ้นให้อดีตสมาชิกเขมรแดงเริ่มสงครามกลางเมือง
ฮุนเซน เองเป็นผู้บัญชาการระดับกลางของเขมรแดงก่อนแปรพักตร์ในเวลาต่อมา ขณะที่เขมรแดงยังอยู่ในอำนาจ และสมาชิกอาวุโสจำนวนหนึ่งของพรรคประชาชนกัมพูชาก็มีภูมิหลังคล้ายกันกับฮุนเซน การสร้างพันธมิตรกับอดีตผู้บัญชาการเขมรแดงคนอื่นๆ ช่วยให้ฮุนเซนยังสามารถยึดครองการควบคุมทางการเมืองไว้ได้.