ซินหวา - การเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์ที่กำลังจะมาถึงของพม่าเข้าสู่ช่วงนับถอยหลัง 7 วันในวันนี้ (1) รัฐบาล พรรคการเมือง และคณะกรรมการการเลือกตั้งในทุกระดับ และผู้สมัครรับเลือกตั้งต่างเตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้งวันที่ 8 พ.ย.นี้ แต่การเลือกตั้งในบางพื้นที่ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในรัฐชาน ได้ยกเลิกการจัดเนื่องจากการสู้รบ และความไม่ปลอดภัย
การรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งของพรรครัฐบาล และพรรคฝ่ายค้านได้ทวีความเข้มข้นขึ้นในช่วงโค้งสุดท้าย นับตั้งแต่เริ่มการรณรงค์ในวันที่ 8 ก.ย. และกำหนดสิ้นสุดการหาเสียงในวันที่ 6 พ.ย. ก่อนวันเลือกตั้ง 2 วัน
การเลือกตั้งล่วงหน้าภายในประเทศที่เป็นการจัดขึ้นเพื่อเจ้าหน้าที่รัฐบาล ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ผู้สังเกตการณ์ท้องถิ่น และสื่อ มีขึ้นตั้งแต่วันพฤหัสบดี (29) และดำเนินไปจนถึงวันที่ 7 พ.ย. ก่อนการหย่อนบัตรเลือกตั้งทั่วประเทศอย่างเป็นทางการในวันที่ 8 พ.ย. ขณะเดียวกัน ผู้มีสิทธิเลือกตั้งในต่างแดนได้ใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้ายังสถานทูตพม่า 44 แห่ง ที่เปิดให้ใช้สิทธิหย่อนบัตร
ในการเลือกตั้งครั้งนี้มีผู้สมัครรับเลือกตั้งลงแข่งขันทั้งหมด 6,040 คน จาก 91 พรรค และผู้สมัครอิสระ 310 คน
คณะกรรมการการเลือกตั้งสหภาพ (UEC) ได้กำหนดเขตการเลือกตั้งรวม 1,163 เขตทั่วประเทศ โดยแบ่งเขตเลือกตั้งผู้แทนสภาเป็น 3 ระดับ ประกอบด้วย สภาผู้แทนราษฎร (สภาล่าง) วุฒิสภา (สภาสูง) และสภาเขต หรือรัฐที่เกี่ยวข้องต่อผู้แทนชาติพันธุ์ จาก 1,163 เขตเลือกตั้ง เป็นการเลือกตั้งเพื่อเก้าอี้ในสภาผู้แทนราษฎร 330 ที่นั่ง สภาสูง 168 ที่นั่ง สภาเขตหรือรัฐ 636 ที่นั่ง และผู้แทนชาติพันธุ์ 29 ที่นั่ง
ภายใต้รัฐธรรมนูญของพม่ากำหนดให้ 25% ของที่นั่งในสภาแต่ละระดับสงวนไว้ให้แก่นายทหารที่ถูกเสนอชื่อโดยตรงโดยไม่ต้องเลือกตั้ง
คณะกรรมการฯ เปิดคูหาเลือกตั้ง 46,400 แห่ง ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 32 ล้านคนในประเทศใช้สิทธิ ซึ่งส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในเขตย่างกุ้ง มัณฑะเลย์ อิรวดี พะโค และมะเกว
พรรคสหสามัคคีและการพัฒนา (USDP) ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง 1,122 คน ขณะที่พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง 1,124 คน
ผู้สังเกตการณ์ท้องถิ่นมากกว่า 10,000 คน จากกลุ่มองค์กรภายในประเทศ 13 กลุ่ม และผู้สังเกตการณ์ต่างชาติ 1,000 คน จากกลุ่มองค์กรระหว่างประเทศ 6 กลุ่ม รวมทั้งสหภาพยุโรป และสถานทูตต่างๆ ในพม่า 30 แห่ง จะเข้าร่วมสังเกตการณ์การเลือกตั้งครั้งนี้ และรัฐบาลได้เตรียมส่งกำลังตำรวจฝึกฝนพิเศษ 40,000 นาย รักษาความปลอดภัยตามคูหาเลือกตั้งทั่วประเทศ
การเลือกตั้งที่จัดขึ้นทุก 5 ปี เป็นการเลือกผู้แทนเข้าสู่สภาสมัยถัดไป โดยสภาชุดใหม่จะเลือกประธานาธิบดี และรองประธานาธิบดี และตั้งรัฐบาลใหม่ในเดือน ก.พ.2559.
.