แถ่งเนียน - สหภาพแรงงานเรียกร้องให้รัฐบาลเวียดนามปรับเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำสำหรับแรงงานในปีหน้า ที่ 14.4% โดยอ้างว่า ข้อเสนอปรับเพิ่มค่าแรงของสภาค่าจ้างแห่งชาตินั้นต่ำไป
คำแถลงจากสหภาพแรงงานเวียดนาม ระบุว่า เศรษฐกิจของประเทศได้เติบโตขยายตัวอย่างมั่นคง จึงไม่มีเหตุผลที่การปรับเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำจะต่ำกว่าการปรับเพิ่มค่าแรงเมื่อต้นปีที่ 14.8%
อัตราค่าแรงขั้นต่ำจะถูกนำไปใช้ในการคำนวณเงินเดือนให้แก่คนงาน ซึ่งจะแตกต่างกันตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายของคนงานแต่ละคนบนพื้นฐานของทักษะ และประสบการณ์ โดยอัตราค่าแรงในตอนนี้อยู่ระหว่าง 2.15-3.1 ล้านด่ง (ประมาณ 3,475-5,000 บาท) ซึ่งจากการระบุของสหภาพแรงงาน ค่าแรงดังกล่าวครอบคลุมเพียง 75% ของความต้องการพื้นฐานของแรงงานเท่านั้น
สภาค่าจ้างแห่งชาติ ที่ประกอบด้วยสมาชิกที่มาจากตัวแทนของกองกำลังแรงงานแห่งชาติ นายจ้าง และกระทรวงแรงงาน ได้ตัดสินใจที่จะเพิ่มค่าแรง 12.4% ในปีหน้า หลังสหภาพแรงงานและสมาคมธุรกิจไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้หลังเจรจากันนานหลายเดือน
สหภาพแรงงานได้เรียกร้องปรับเพิ่มค่าแรงที่ 16.8% เพื่อช่วยให้ค่าแรงครอบคลุมความต้องการพื้่นฐานของคนงาน 89% ขณะที่หอการค้าและอุตสาหกรรมเวียดนาม ที่เป็นตัวแทนของนายจ้างหลายพันรายในประเทศยืนยันที่จะปรับเพิ่มขึ้นเพียง 10% เท่านั้น นับเป็นระดับที่ต่ำสุดตั้งแต่ปี 2556
แม้อัตราค่าแรงที่สภาค่าแรงแห่งชาติเสนอไปนั้นยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาอนุมัติจากรัฐบาล แต่สหภาพแรงงานได้ตัดสินใจที่จะรวบรวมข้อมูลที่จำเป็นเพื่อดำเนินการทางกฎหมาย โดยระบุว่าคนงานจำนวนมากยังต้องดิ้นรนต่อการใช้ชีวิตในแต่ละวัน ขณะที่ธุรกิจต่างๆ มีกำลังจ่ายได้มากกว่านี้
การเพิ่มค่าแรงที่เหมาะสมจะช่วยรักษาความสัมพันธ์ระหว่างนายจ้าง และลูกจ้างจากความยุ่งยากซับซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ แต่บรรดาธุรกิจต่างๆ ได้เตือนว่า การเพิ่มค่าแรงเป็นจำนวนมากอาจกระทบต่อผลกำไร และนำไปสู่การลดตำแหน่งงาน.