ASTVผู้จัดการออนไลน์ - องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งสหรัฐฯ หรือนาซ่า เพิ่งจะเปิดเผยแพร่ภาพเคลื่อนไหว กับภาพพิมพ์สามมิติชิ้นใหม่เมื่อสักครู่ที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับเวลาเช้าตรู่ในประเทศไทย เปิดเผยให้เห็นผลงานของดาวเทียมอีกดวงหนึ่งเกี่ยวกับไต้ฝุ่นอัสนี (Atsani) ที่กำลังอาละวาดอยู่ในทะเลแปซิฟิกตะวันตกขณะนี้ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่องานพยากรณ์อากาศทั้งในระดับภูมิภาค และในระดับโลก
เรื่องนี้เกิดขึ้นหลังจากก่อนหน้านี้เพียงข้ามวัน องค์การนาซ่าได้เผยแพร่ภาพเคลื่อนไหวสามมิติ จากการเก็บข้อมูลของดาวเทียม GPM แสดงการ “เจาะนัยน์ตา” ของไต้ฝุ่นชื่อไทย ในขณะที่ทวีความเร็วลมใกล้ศูนย์กลางขึ้นเป็นไต้ฝุ่นะดับ 4 ซึ่งทำให้นักวิทยาศาสตร์สามารถคิดคำนวณปริมาณฝน ความเร็วลม กับทิศทางการเคลื่อนตัวของพายุรุนแรงได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น เนื่องจากสามารถศึกษาลึกลงไปในรายละเอียดได้มากขึ้น
สำหรับงานชิ้นใหม่นี้เกิดจากการวบรวมข้อมูลโดยดาวเทียมอีกดวงหนึ่งที่มีชื่อว่า “คลาวด์แส็ต” (Cloudsat) ในขณะที่เคลื่อนผ่านทิศตะวันตกของไต้ฝุ่นอัสนี บนห้วงอวกาศ และด้วยระบบเรดาร์ที่ก้าวหน้า ดาวเทียมดวงนี้สามารถเก็บข้อมูลที่สำคัญต่างๆ จากด้านข้างของพายุใหญ่ได้ ก่อนจะส่งเข้าศูนย์ควบคุมการบินอวกาศก็อดดาร์ด ในรัฐแมรีแลนด์ และกลายเป็นภาพสามมิติที่ดูละลานตา หาดูได้ไม่บ่อยนัก
ภาพสามมิติที่มองจากด้านข้างช่วยทำให้เห็นสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์เรียกว่า “อายวอลล์” (Eye Walls) หรือ “กำแพงแห่งนัยต์ตา” ที่ปรากฏเป็นชั้นๆ อันเกิดจากวัตถุ หรือมวลสารที่แตกต่างกัน ภายในบริเวณใจกลางของพายุ เป็นการแสดงข้อมูลต่างๆ ในแนวดิ่งที่เห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ช่วยให้นักวิทยาศาาสตร์สามารถคิดคำนวณปริมาณฝน รวมทั้งปริมาณไอน้ำที่เกิดการควบแน่น กลายเป็นนำแข็งอยู่ในย่านใจกลางของซูเปอร์ไต้ฝุ่นได้
ข้อมูลเหล่านี้เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง เมื่อไต้ฝุ่นสักดวงหนึ่งกำลังจะเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งในอาณาบริเวณที่มีประชาชนอยู่อาศัยกันหนาแน่น หรือเป็นพื้นที่การเกษตร พื้นที่ก่อสร้าง ข้อมูลที่เพียงพอจะช่วยให้การเตือนภัยล่วงหน้า และทำให้การตระเตรียมรับมือเพื่อลดผ่อนความเสียหายจากพายุ สามารถเป็นไปได้สูงสุด
.
.
อัสนี ปั่นตัวขึ้นเป็นไต้ฝุ่นระดับ 4 แข็งแรงเต็มกำลังในระดับ “ซูเปอร์ไต้ฝุ่น” เมื่อเวลาประมาณเที่ยงคืนวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา ตามเวลาในท้องถิ่น
ดาวเทียมคลาวด์แส็ต เคลื่อนผ่านย่านแปซิฟิกตะวันตกในช่วงเวลาดังกล่าว ได้เก็บข้อมูลด้วยอุปกรณ์ที่เรียกว่า “เรดาร์เก็บข้อมูลเมฆ” (Cloud Profiling Radar- CPR) จากด้านข้างของไต้ฝุ่นอัสนีเมื่อเวลา 03.27 น. ขณะที่พายุใหญ่มีความเร็วลมใกล้ศูนย์กลางเกือบ 130 นอต (240 กิโลเมตร/ชั่วโมง) เมื่อรวบรวมนำไปวิเคราะห์กับข้อมูลจากดาวเทียม MTSAT ของญี่ปุ่น ทำให้ได้ภาพสามมิติที่น่าตื่นตาตื่นใจออกมา
เมื่อเวลา 09.00 น.วันพฤหัสบดี 20 ส.ค.นี้ ซูเปอร์ไต้ฝุ่นชื่อไทยได้ทวีความเร็วแรงขึ้นอีก ปั่นความเร็วลมใกล้ศูนย์กลางขึ้นเป็นเกือบ 135 นอต หรือ 250 กม./ชม. กลายเป็นไต้ฝุ่นที่มีขนาดใหญ่มหึมา และมีพลังมหาศาลที่สุดอีกลูกหนึ่งในย่านแปซิฟิกตะวันตก นาซาระบุในเอกสารแถลงข่าวที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ตอนเช้าตรู่วันศุกร์ 21 ส.ค.นี้ ตามเวลาในประเทศไทย
หลายประเทศในย่านนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งฟิลิปปินส์ กับเวียดนาม จะต้องขอบคุณซูเปอร์ไต้ฝุ่นอัสนี ที่กลายเป็นแรงเหนี่ยวสำคัญ ฉุดรั้ง ดูดไต้ฝุ่นอีกลูกหนึ่งไม่ให้บ่ายหน้าข้ามหมู่เกาะ และเข้าสู่ทะเลจีนใต้ สร้างความเสียหายในย่านนี้
ตรงกันข้าม ไต้ฝุ่นโคนิ (Coni) ชื่อเกาหลี กำลังถูกไต้ฝุ่นอัสนีกดดันด้วยพลังที่เหนือกว่าดึงดูดให้เคลื่อนตัวทำวงโค้ง เฉียดเกาะลูซอน ทางตอนเหนือสุดของฟิลิปปินส์ กลับออกสู่ทะเลแปซิฟิกตะวันตกอีกครั้งหนึ่ง โดยเคลื่อนตัวเฉียดทางตะวันตกเฉียงใต้เกาะไต้หวัน ไปทางทิศใต้หมู่เกาะญี่ปุ่น และจะเริ่มอ่อนกำลังลงในตอนเช้าวันศุกร์นี้.
.
2
3
4