xs
xsm
sm
md
lg

“แคร์รี่” ชี้ความสัมพันธ์สหรัฐฯ ขยายเพิ่มได้หากเวียดนามมีเสรีภาพมากขึ้น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

<br><FONT color=#000033>จอห์น แคร์รี่ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ (ซ้าย) และฝ่าม บิ่ง มีง รัฐมนตรีต่างประเทศเวียดนาม ขณะร่วมแถลงข่าวที่กระทรวงการต่างประเทศในกรุงฮานอย เมื่อวันที่ 7 ส.ค.--Reuters/Brendan Smialowski/Pool.</font></b>

รอยเตอร์ - จอห์น แคร์รี่ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวยกย่องความสัมพันธ์ที่อบอุ่นกับเวียดนามเมื่อวันศุกร์ (7) แต่ระบุว่า ขอบเขตของความสัมพันธ์ และข้อตกลงทางทหารจะขึ้นอยู่กับความมุ่งมั่นตั้งใจของรัฐบาลเวียดนามที่จะปกป้องสิทธิและเสรีภาพ

แคร์รี่ เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลสหรัฐฯ รายล่าสุดที่เดินทางเยือนเวียดนามเพื่อฉลองวาระครบรอบ 20 ปี ของการมีส่วนร่วมนับตั้งแต่ฟื้นความสัมพันธ์ทางการทูตสู่ระดับปกติที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วในช่วงปีที่ผ่านมา

ในการกล่าวสุนทรพจน์เนื่องในวาระดังกล่าว แคร์รี่ ระบุว่า อุปสรรคของความไม่ไว้วางใจ และความเข้าใจผิดกำลังลดลง และเรียกร้องให้เวียดนามแสดงความมุ่งมั่นที่จะดำเนินการปฏิรูปกฎหมาย และให้เสรีภาพของการแสดงความคิดเห็น และการชุมนุม

“ความคืบหน้าในด้านสิทธิมนุษยชน และหลักนิติธรรมจะเป็นรากฐานสำหรับความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่ยั่งยื่นยิ่งขึ้น มีเพียงแค่คุณที่จะกำหนดการก้าว และทิศทางของกระบวนการ” แคร์รี่ กล่าว

แม้เวียดนามจะมีส่วนร่วมกับตะวันตก และปฏิรูปเศรษฐกิจ แต่เวียดนามยังถูกตำหนิเกี่ยวกับการปราบปรามผู้เห็นต่าง บล็อกเกอร์ นักเคลื่อนไหว และนักข่าวเป็นส่วนหนึ่งของผู้ที่เผชิญต่อการกดขี่ข่มเหง จับกุม และจำคุก

สหรัฐฯ เพิ่มการมีส่วนร่วมกับเวียดนามเพื่อเพิ่มอิทธิพลในเอเชีย และคานอิทธิพลจีน แต่สิทธิมนุษยชน และนักโทษการเมืองยังคงเป็นจุดที่ติดขัด

วอชิงตันอ้างความคืบหน้าบางส่วนเมื่อปีก่อน และเริ่มผ่อนคลายการห้ามค้าอาวุธอันตรายต่อเวียดนาม รวมทั้งอนุญาตการมีส่วนร่วมทางกลาโหม และการซ้อมรบร่วม

แคร์รี่ กล่าวแถลงข่าวร่วมกับ ฝ่าม บิ่ง มีง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีต่างประเทศของเวียดนามว่า สิ่งที่จะช่วยผ่อนคลายข้อห้ามได้เพิ่มขึ้นคือ ประเด็นสิทธิมนุษยชน และว่าเวียดนามยังมีพื้นที่สำหรับปรับปรุงประเด็นนี้อีกมาก

“เราจะยังคงเรียกร้องให้เวียดนามปฏิรูปกฎหมายที่อาจใช้ในการจับกุม..บางคนที่แสดงความเห็นอย่างสันติ”

มีง กล่าวว่า การส่งเสริมสิทธิเป็นสิ่งสำคัญลำดับแรก และการปฏิรูปกฎหมายอยู่ในระหว่างการดำเนินการ แต่สิทธิในเวียดนามเป็นลักษณะเฉพาะตามบริบทของท้องถิ่นนั้นๆ แต่เวียดนามยินดีที่จะปรับปรุงการหารือที่แตกต่าง

แคร์รี่ เรียกร้องให้เวียดนามยอมรับเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และการชุมนุมที่ชาวเวียดนามหลายล้านคนแสดงความคิดเห็นบนเฟซบุ๊ก และแรงงานที่ชุมนุมปกป้องสิทธิของตัวเอง.
กำลังโหลดความคิดเห็น