เอเอฟพี - ประธานาธิบดี ดิลมา รูสเซฟฟ์ แห่งบราซิล กล่าวกับประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียวานนี้ (14 ก.ค.) ว่า บราซิลเลียมีแผนจะสั่งซื้อระบบป้องกันภัยทางอากาศจากมอสโก และดำเนินความร่วมมือกันด้านพลังงานนิวเคลียร์ร่วมกับแดนหมีขาว
ปูตินได้เดินทางเยือนแดนแซมบ้า ภายหลังที่เขาเสร็จสิ้นภารกิจที่คิวบาและอาร์เจนตินา ระหว่างการตระเวนทัวร์ละตินอเมริกาเพื่อโน้มน้าวให้เหล่าผู้นำในภูมิภาคนี้ร่วมกันสนับสนุนนโยบายของเขา ในช่วงที่รัสเซียกำลังตึงเครียดกับบรรดาชาติตะวันตก หลังแดนหมีขาวตกเป็นจำเลยจากกรณีแทรกแซงกิจการภายในยูเครน
ผู้นำบราซิลและรัสเซียได้ลงนามข้อตกลงทางการทหาร, เศรษฐกิจ, เทคโนโลยี และสาธารณสุขร่วมกัน
ภายหลังการร่วมหารือกันที่ทำเนียบรัฐบาลปลานัลโต รูสเซฟฟ์กล่าวกับบรรดาผู้สื่อข่าวขณะยืนเคียงข้างปูติน ว่า “เราขอเน้นย้ำว่า การร่วมมือกันด้านกลาโหม และการใช้พลังงานนิวเคลียร์เชิงสันติเป็นสิ่งที่มีความสำคัญ”
ตามข้อตกลงทางทหารที่สองชาติบรรลุร่วมกัน กองทัพรัสเซียและบราซิลจะซ้อมรบร่วมกันในเดือนหน้า เพื่อทดสอบ “แพนต์ซีร์ - เอส 1” ระบบขีปนาวุธจากพื้นสู่อากาศพิสัยใกล้และพิสัยกลาง และระบบปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน ซึ่งบราซิลมีแผนจะติดต่อขอซื้อจากรัสเซียในเร็วๆ นี้
รูสเซฟฟ์ชี้ว่า “เนื่องจากชาติของเราจัดอยู่ในกลุ่มประเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก เราจึงไม่อาจพอใจที่ยังต้องพึ่งพาผู้อื่นในศตวรรษที่ 21 เช่นนี้”
“เราจำเป็นจะต้องมีศักยภาพมากพอที่จะพึ่งตนเองได้ทั้งทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี”
ปูตินได้ยกย่องบราซิลว่าเป็น “หุ้นส่วนที่ยิ่งใหญ่ที่สุด” ของรัสเซียในภูมิภาคอเมริกาใต้ พร้อมทั้งกล่าวว่า พวกเขาได้ผนึกกำลังกันจัดการ “ประเด็นปัญหาที่สำคัญระดับนานาชาติ”
ผู้นำรัสเซียกล่าวเสริมว่า ทั้งสองต่างตั้งความหวังที่จะ “พัฒนาศักยภาพด้านอุตสาหกรรม โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยี” โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนความร่วมมือระหว่างสองชาติ
ปูตินระบุว่า ทั้งสองได้วางแผนจะร่วมกันสร้างสาธารณูปโภคสำหรับโรงไฟฟ้า สถานีรถไฟปลายทาง เครื่องบิน และรถบัส
นอกจากนี้ บราซิลยังตั้งเป้าจะเปิดทางให้รัสเซียเข้ามาลงทุนด้านพลังงาน และโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มขึ้น เพื่อพัฒนาสายสัมพันธ์ด้านการค้าของสองประเทศ
ข้อตกลงหนึ่งที่มอสโกจรดปากกาลงนามร่วมกับบราซิลเลียคือ การตั้งเป้ายกระดับการค้าจาก 5.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.8 แสนล้านบาท) เมื่อปีที่แล้ว ขึ้นเป็น 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.21 แสนล้านบาท)
รูสเซฟฟ์กล่าวว่า “การทำเช่นนี้จะช่วยผลักดันให้ทั้งสองฝ่ายทุ่มเม็ดเงินลงทุนโดยตรงมากขึ้น”
“ดิฉันได้อธิบายให้ประธานาธิบดีปูติน เข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงโอกาสด้านพลังงาน และโครงสร้างด้านพื้นฐานที่มีมากมาย (ในบราซิล) ซึ่งเป็นภาคส่วนที่บรรดาบริษัทรัสเซียสามารถเข้ามาแสดงบทบาทที่สำคัญได้มากขึ้น โดยเฉพาะการอนุญาตเพื่อเปิดทางให้เข้ามาลงทุนด้านน้ำมัน ท่าเรือ และทางรถไฟ
วันนี้ (15) ปูตินจะเข้าร่วมการประชุมระดับผู้นำของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่รายใหญ่หรือ “บริกส์” ณ เมืองฟอร์ตาเลซา ทางตะวันออกเฉียงเหนือของบราซิล
นอกจากนี้ ผู้นำแดนหมีขาวยังเดินทางไปชมการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบชิงชนะเลิศในนครริโอเดจาเนโร แมตช์ที่เยอรมนีเฉือนเอาชนะอาร์เจนตินาไป 1-0
รัสเซียซึ่งจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกในปี 2018 ได้ให้คำมั่นว่า จะทุ่มงบประมาณหลายพันล้านดอลลาร์สร้างสนามกีฬาและโครงสร้างขั้นพื้นฐานที่ใช้ในการแข่งขัน