ASTVผู้จัดการออนไลน์ - เธอมีบ้านเป็นแมนชันหรูในนครโฮจิมินห์ มีรถออดี้สปอร์ตเป็นพาหนะ เป็นเจ้าของสปาที่มีชื่อเสียง เจ้าของเกสต์เฮาส์ระดับ 4 ดาว เจ้าของเสื้่อผ้าแฟชั่น “เนมแบรนด์” ของตัวเธอเอง และเชื่อกันว่าตอนนี้ “ตุ๊กตา” มีเงินฝากในบัญชีหลายหมื่นล้านดง หรือหลายสิบล้านบาท ทรัพย์สินที่สาวสวยมีอยู่ในวันนี้อาจจะมีมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ .. เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อสำหรับเด็กสาว ตจว.คนหนึ่ง จากครอบครัวยากจนจุดโต่ง ในเขตที่ราบปากแม่น้ำโขงเวียดนาม .. หลายคนบอกว่ามันเป็นเรื่องของซินเดอเรลลาในยุคใหม่แท้ๆ
เรากำลังพูดถึงเหวียนหง็อกจีง (Nguyen Ngoc Trinh) “ตุ๊กตาหน้าเป็น” หรือ “ตุ๊กตาหน้าขาว” ของชาวเว็บ
ชื่อนี้ออกเสียงว่า “เหวียน-หง็อก-จิน” ในสำเนียงของชาวใต้ แต่ไม่ว่าใครจะเรียกอย่างไร “ตุ๊กตา” ก็ยังเป็นเน็ตไอดอลชาวเวียดนาม ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงยิ่ง ชาวโลกอาจจะรู้จักเธอมากกว่าใครๆ ในประเทศบ้านเกิด รวมทั้งในไทยเอง ที่ครั้งหนึ่งได้เคยเป็นคัฟเวอร์เกิร์ล ให้นิตยสาร MARS ในเครือ “เอเอสทีวีผู้จัดการ” ภาพถ่ายชุดบิกินีริมหาดของเธอ ทำให้เดือนมีนาฯ เมษาฯ ปีนั้นร้อนระอุ
ชื่อ เหวียนหง็อกจีง จึงเป็นที่รู้จัก และคุ้นเคยมากกว่าชื่อของประธานาธิบดี นายกรัฐมนตรีเวียดนาม กระทั่งเลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม เสิร์ชด้วยชื่อนี้ในตอนนี้ กู้เกิลจะให้ผลลัพธ์ออกมาอย่างน่าทึ่งกว่า 830,000 คำตอบ เฟซบุ๊กของเธอมีผู้ติดตามกว่า 500,000 คน และยังมีแฟนเพจอีกมากมาย มีสาวกเกาะติดตั้งแต่ 10,000 จนถึง 100,000
“ตุ๊กตา” เคยเดินทางมาไทยหลายครั้ง ทั้งมาทำงาน และพักผ่อนวันหยุด และเธอเป็นข่าวที่นี่มาหลายครั้งในหลายโอกาส ถ้าหากเสิร์ชด้วยชื่อของเธอ พร้อมกับคำว่า MARS ต่อท้าย จะได้คำตอบออกมามากมายจนต้องแปลกใจ
ปีนี้อายุ 26 หง็อกจีง มีทุกอย่างที่หญิงสาวทุกคนอยากจะมี และหนุ่มๆ ต่างใฝ่หา .. ผิวพรรณขาวนวลเนียน ไร้ไฝฝ้า หน้าอกหน้าใจ แม้จะไม่ได้ใหญ่ได้โตมากมาย แต่ก็เต่งตึง ดูดึ๋งๆ ดีไปหมด หุ่นเฟิร์มเป๊ะ ทุกสัดส่วนแน่นเปรี๊ยะ สูง 179 ซม. น้ำหนัก 49 กก. พิกัดสามมิติอยู่ที่ 84-56-93 คงเส้นคงวาเสมอมา ..
เกิดปี 2532 เกิดมาก็เป็นกำพร้าทันที ชีวิตสุดแสนรันทด ตุ๊กตาเคยเล่าว่า .. คุณแม่เสียชีวิตตอนคลอด .. คุณแม่ยอมสละชีวิตเพื่อให้ลูกสาวคนคนที่ 2 ได้เกิดมาดูโลก คุณแม่บุญธรรมคนปัจจุบันได้เลี้ยงดูมาตั้งแต่แบเบาะ และ ยังมีน้องๆ ตามกันออกมาอีก ขณะที่ครอบครัวมีรายได้โดยพึ่งพาการทำนา และคุณพ่อรับจ้างทั่วไป เพื่อเลี้ยงลูกๆ 5 คนที่บ้าน ซึ่งเมื่อโตขึ้นมารอดปากเหยี่ยวปากกา ทุกคนต้องช่วยกันออกเก็บของเก่าไปขาย
ความยากจน ลำบากยากแค้น ทำให้ตุ๊กตาเรียนถึงแค่ชั้นประถมปีที่ 3 และไม่ได้เรียนอะไรอีกเลยในระบบโรงเรียนตั้งแต่นั้นมา ทั้งนี้ ก็เพื่อทำงานช่วยเหลือครอบครัวให้มีกินประทังชีวิต
.
.
.
พี่สาวอายุมากกว่าเธอ 4 ปี และเมื่อสัก 10 ปีที่แล้ว ตอนนั้นเธอ 15 และ พี่สาว 19 สองพี่น้องตัดสินใจเดินทางเข้าโฮจิมินห์หางานทำ พี่รับจ้างในร้านอาหาร ต่อมา ในร้านเสริมสวย (วันนี้ .. เจิ่นหง็อกบิก แต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝาแล้ว มีลูกชาย 1 คน มีทั้งร้านอาหาร และร้านเสริมสวยเป็นของตัวเอง) ส่วนตุ๊กตา ได้งานเป็น “มาร์กกี้” ในร้านสนุ๊กแห่งหนึ่ง ซึ่งทำให้ชีวิตพลิกผัน..
ด้วยหน้าตาดี หุ่นดี ผิวพรรณดี สะอาดสะอ้าน และความสดใสของสาวแรกรุ่น แมวมองตาถึงคนหนึ่งได้นำเธอเข้าสู่วงการนางแบบ รับงานถ่ายแบบ เป็นพรีเซ็นเตอร์ เป็นโปรโมเตอร์โนเนมให้แก่สินค้าสารพัด ..
ในที่สุด ตุ๊กตา ได้เข้าสังกัดวีนัสโมเดลเมื่ออายุเพียง 16 .. และ เงินทองเริ่มไหลมาเทมา อีก 4 ปีต่อมา เธอไปคว้ามงกุฎจากเวทีประชันความสวยความงามในสหรัฐฯ และหวูคักเตียบ (Vu Khac Tiep) ผู้อำนวยการ-เจ้าของโมเดลลิ่ง ได้ทุ่มเทสุดใจให้แก่นางแบบขวัญใจในคาถาคนนี้ ก่อตำนานสมภารกับไก่วัดขึ้น ทั้งคู่นอนเตียงเดียวกันเป็นเรื่องเป็นราว เป็นเวลาปีเศษ ก่อนตัดสินใจแยกเตียง และกลับไปมีสัมพันธ์แบบเจ้านายกับลูกจ้างอีกครั้งหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม ถึงวันนั้นชื่อเสียงของหง็อกจีง ได้ขจรกระจายไปไกลจนสุดโต่งแบบกู่ไม่กลับ เธอได้รับฉายา “ราชินีแห่งชุดชั้นใน” และ “ราชินีแห่งบิกินี” จากสื่อ จากวันนั้นจนถึงวันนี้ ก็ยังไม่มีดาวรุ่งดวงไหนทะยานขึ้นแทนที่ได้ ยังมีงานถ่ายแบบแฟชั่น งานพรีเซ็นเตอร์สินค้า รวมทั้งงานอีเวนต์ต่าง หยิบยื่นให้อย่างสม่ำเสมอ ยืนอยู่ในวงการอย่างคงกระพัน และค่าแรงเป็นกอบเป็นกำ
ความสำเร็จของเธอ ทำให้ครอบครัว คุณพ่อคุณแม่มีบ้านหลังใหม่ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน น้องๆ ได้เล่าเรียน ไม่มีใครต้องไปถีบซาเล้งเก็บของขายอีก ตุ๊กตาเขียนในเฟซบุ๊กเมื่อเร็วๆ นี้ว่า ไม่ว่าการงานจะขึ้นจะลงอย่างไร เธอก็ยังส่งเสียครอบครัวทุกเดือนสม่ำเสมอ ตลอดหลายปีมานี้ กับอีกจำนวนหนึ่งเป็นพิเศษสำหรับคุณแม่บุญธรรมผู้เลี้ยงดูเธอมาโดยเฉพาะ..
.
2
เรื่องราวของซินเดอเรลลาไม่อาจจะจบลงได้ หากปราศจากการบอกเล่าเรื่องราวอันเป็นบทโศกระทม.. น้ำตานองใบหน้า คนรักเท่าผืนหนัง คนชังเท่าผืนนา .. ยิ่งสูงก็ยิ่งหนาว .. ตุ๊กตามีทั้งมิตรทั้งศัตรู กับคนขี้อิจฉาตาร้อนเต็มไปหมด เธอถูกรุมกระทืบเกือบจมปฐพีมาหลายครั้ง
ด้วยวาจาซื่อๆ ตรงไปตรงมา ในบางโอกาสบทสัมภาษณ์ของเธอ ถูกใช้เป็นหอกแหลมกลับไปทิ่มแทงสาวสวย รวมทั้งในครั้งหนึ่ง วาทะที่ว่า “หนูจะไม่แต่งกับคนจน..” ได้กลายเป็นจุดอ่อนให้สื่อออนไลน์บุกทะลวงเข้าฟันฉับๆๆๆ รุมก่น รุมประณามตุ๊กตาหน้าเป็น .. รณรงค์ให้วงการบันเทิงของประเทศบอยคอต หาว่าดูถูกไอ้หนุ่มรถไถ
แล้วก็ยังมีช่วงปีหนึ่ง เว็บไซต์ปรสิตประเภทซี้ดดด.. แห่งหนึ่ง นำภาพหลุดระดับเอ็กซ์ จากห้องพักบนแมนชันหรู นครโฮจิมินห์ ออกเผยแพร่ เป็นภาพสาวหน้าเหมือนกับเสี่ยใหญ่ชาวต่างชาติ อีกหลายต่อหลายเว็บ ช่วยกันไปขุดภาพสาวมอเตอร์โชว์เก่าๆ เป็นสาวหน้าเหมือน เพื่อยืนยันว่า ตุ๊กตาหน้าขาวเคยเป็นสาวขายเซ็กซ์ไฮโซ อันเป็นการกล่าวหาที่ ตุ๊กตาปฏิเสธเสียงแข็ง .. เรื่องอื้อฉาวคราวนั้นทำให้ถึงกับซวนเซเหมือนกัน แต่ไม่ล้ม .. เพราะมีสมภารใหญ่ หวูคักเตียบ อยู่เคียงข้าง
และ เหวียนหง็อกจึง ก็เหมือนกับปี๊บหน่อไม้ดองเปล่าๆ .. ยิ่งเตะก็ยิ่งดัง
นับเป็นเรื่องเหลือเชื่อสำหรับเด็กสาวจาก จ.จ่าวีง (Tra Vinh) เธอเองก็คงจะเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ตามรายงานของอานนีงถู่โด หนังสือพิมพ์ออนไลน์ภาษาเวียดนาม จากที่เคยรับงานสารพัด ไม่เคยเลือก ในวันนี้วีนัสโมเดล ฟิกซ์ค่าแรงถ่ายแบบแฟชั่นของตุ๊กตาเอาไว้ที่ 15,000 ดอลลาร์ ไม่ขาดไม่เกิน .. เพิ่มขึ้นจาก 3,000 ดอลลาร์ เมื่อ 2-3 ปีก่อน
เรตติ้งที่พุ่งแรงยังทำให้ค่าตัวออกงานอีเวนต์เป็นครั้งละ 2,000-5,000 ดอลลาร์ ขึ้นอยู่กับว่าจะให้ไปทำอะไร.. แบบไหน จากเมื่อก่อนนี้ที่เคยควงแขนเจ้านายไปให้ฟรีๆ แม้ไม่มีเทียบเชิญ
มีบ้านแมนชัน มีรถยนต์หรูคู่ชีพ มีเสื้อผ้าแบรนด์ดังนับไม่ถ้วน มีกระเป๋าชาแนลราคา 3,000-6,000 ดอลลาร์ อยู่หลายใบ ฯลฯ ผ่านชีวิตคู่มาแล้ว แต่เธอยังสามารถเลือกชายคนใหม่ได้ทุกเมื่อหากต้องการ
ในวันนี้ เหวียนหง็อกจีง กลายเป็นสาวสวยเพียงไม่กี่คนในย่านเอเชียที่ได้เป็นนางแบบแฟชั่นโชว์ ออกปรากฏตัวใน FTV.Com เธอเดินทางไกลจากดวงดาวไปสู่ดวงดาว ไม่ต่างกับยานนิวฮอไรซันส์ (New Horizons) ขององค์การนาซ่า ที่ไปไกลจนสุดขอบสุริยะจักรวาล ไปเฉียดๆ ดาวพลูโตเมื่อไม่กี่วันมานี้ หลังจากเดินทางมานาน 10 ปี.
.
3
4
5
6
7
8
