ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ร้านอาหารจำนวน 10 แห่ง ในนครด่าหนัง นครใหญ่ที่สุดในภาคกลางเวียดนาม เริ่มให้บริการใหม่แก่ลูกค้าที่ไปกินไปดื่มตั้งแต่วันพุธ 15 ก.ค.เป็นต้นไป คือ เมาแล้วส่งกลับบ้านฟรีๆ คือ ถ้าหากลูกค้าคนใดที่ไปใช้บริการในร้านจนกระทั่งเมามาย ไม่สามารถขับรถเอง หรือใช้บริการรถโดยสารด้วยตัวเองได้ ร้านอาหารเหล่านี้จะจัดส่งถึงเคหสถานโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ
เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่คิดกันขึ้นมาเอง ทำกันเองโดดๆ หากเป็นส่วนหนึ่งในการเข้าไปมีส่วนร่วมในโครงการนำร่องของทางการนคร และคณะกรรมการในระดับชาติชุดหนึ่ง ที่เรียกว่า “การมีส่วนร่วมของภัตตาคาร เพื่อการขับขี่อย่างปลอดภัย” และ “การมีส่วนร่วมอย่างศิวิไลซ์ และอย่างมีความรับผิดชอบของพนักงานขับรถ” ซึ่งเป็นโครงการ 4 ปี ระหว่างปี 2558-2561 นี้ ทั้งนี้ ก็เพื่อลดอุบัติเหตุที่เกี่ยวกับการใช้รถใช้ถนน
“เมาแล้วขับ” เป็นสาเหตุสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุการจราจรในเวียดนามที่มีสถิติสูงมาก การสำรวจของคณะกรรมการแห่งชาติเพื่อการจราจรที่ปลอดภัย ได้พบว่า “เมาแล้วขับ” เป็นสาเหตุอันดับ 2 ถัดจากการขับรถเร็ว และขับรถโดยประมาท ที่นำไปสู่โศกนาฏกรรมบนท้องถนน และผู้ขับขี่้ที่อยู่ในอาการเมาสุรา เป็นกลุ่มคนที่เสียชีวิตมากที่สุดในอุบัติเหตุ ที่เกี่ยวกับ “เมาแล้วขับ”
การรณรงค์ “ส่งคนเมากลับบ้าน” เป็นความมร่วมมือระหว่างคณะกรรมแห่งชาติชุดดังกล่าว กับบริษัท GrabTaxi Vietnam Co ที่ให้บริการแท็กซี่มีเตอร์ทันสมัยในหลายตัวเมืองปัจจุบัน
“แกร็บแท็กซี่” เป็นบริการแท็กซี่ที่สามารถจองรถได้ผ่านแอปทางสมาร์ทโฟน และคิดค่าโดยสารผ่านมิเตอร์ มีความปลอดภัย และยุติธรรม ไปได้ทุกที่ เรียกได้ทุกเวลา ช่วยแก้ปัญหาแท็กซี่ไม่รับผู้โดยสาร หรือโขกราคาผู้โดยสารในขั่วโมงเร่งรีบ จึงเป็นบริการที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ในย่านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ขณะนี้ รวมทั้งในประเทศไทยด้วย
การรณรงค์ “ส่งคนเมากลับบ้าน” เฟสที่ 1 จะดำเนินไปเป็นเวลา 1 ปี ตั้งแต่ ก.ค.ปีนี้ จนถึง กค.2559 และไม่เพียงแต่จะจัด “แกร็บแท็กซี่” ส่งถึงบ้านให้ฟรีๆ เท่านั้น ภัตตาคารที่เข้าร่วมการรณรงค์ยังจะดูแลรถยนต์ หรือจักรยานยนต์ หรือยานพาหนะชนิดใดก็ตาม รวมทั้งทรัพย์สินของลูกค้าให้อย่างปลอดภัยในชั่วเวลาข้ามคืนอีกด้วย
การรณรงค์ “ส่งคนเมากลับบ้าน” กำลังจะเริ่มขึ้นในอีก 2 นครในเร็วๆ นี้ คือ กรุงฮานอย กับนครโฮจิมินห์ หนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋รายงานในเว็บไซต์.